จานีน ยโสวันต์

ในวาระปีใหม่พ.ศ. 2560 ดิฉันรู้สึกยินดีที่จะนำเสนอถนนสายศิลปินของภาคเหนือ
ประเทศไทย ขัวศิลปะตั้งอยู่ในจังหวัดเชียงราย เชียงรายเป็นจังหวัดแรกของไทย
ที่มีจำนวนศิลปินอาชีพผู้มีสามัญสำนึกในความร่วมมือที่แข็งแกร่งที่สุด ศิลปินคอย
กระตุ้นและช่วยเหลือกลุ่มศิลปินที่มีประสบการณ์น้อยกว่าให้ประสบความสำเร็จ
เช่นเดียวกัน เชียงรายยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย

ดิฉันได้สัมภาษณ์คุณสุวิทย์ ใจป้อม ศิลปินไทยผู้หนึ่งที่ได้รับเลือกให้เป็นทูต
วัฒนธรรมเดินทางไปแสดงผลงานศิลปะในหลายประเทศทั้งในทวีปเอเซียและ
ยุโรป คุณสุวิทย์ยังได้เข้าร่วมในงานมหกรรมสีน้ำโลกอีกด้วย

ในปีพ.ศ. 2544 คุณสุวิทย์ใช้เทคนิคเกรยองวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ จำนวน 84 ภาพในงานนิทรรศการ
เดี่ยวของตัวเอง ภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ถูกนำไปประมูลและจำหน่ายออกไป
ทั้งหมด หลังจากนั้นคุณสุวิทย์กลายเป็นศิลปินอิสระและกลับไปยังบ้านเกิดใน
จังหวัดเชียงรายที่มีศิลปินท้องถิ่นมากกว่า 300 คนพำนักอาศัยและจัดตั้งชุมชน
ศิลปินขึ้นมา ด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่นและการ
บริหารจัดการโดยกลุ่มศิลปินด้วยกันเอง อนาคตของถนนสายศิลปินในจังหวัด
เชียงรายนั้นเป็นไปไนทางที่ดี เมืองแห่งนี้ยังมีความแข็งแกร่งในการจัดงาน
นิทรรศการต่างๆที่สำคัญอีกด้วย

คุณสุวิทย์ ใจป้อมดำรงตำแหน่งรองประธานและทำงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ให้กับ
ขัวศิลปะ ต่อจากนี้ไปเป็นบทสัมภาษณ์

จานีน: ช่วยเล่าถึงผลงานศิลปะที่คุณสร้างสรรค์ในมุมมองของคุณและการพัฒนา
งานที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวคุณ

สุวิทย์: แรงบันดาลใจในการทำงานศิลปะมาจากสรรพสิ่งรายรอบตัว ทั้งคน สัตว์
สิ่งของ สายลม แสงแดด สังคม สิ่งแวดล้อม ชีวิตความเป็นอยู่ ภาพวิ่งเต้นใน
จอภาพยนตร์ เสียงบรรเลงจากบทเพลง ตลอดจนเนื้อหาชีวิตของบุคคลสำคัญที่
ล่วงลับไปแล้ว ทั้งใกล้ตัวและไกลตัว ความประทับใจในการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็น
มหานครอิตาลี  เวียตนาม  จีน หรือแม้กระทั่งในประเทศไทยที่ได้เดินทางไปในที่
ต่างๆ ทั่วประเทศ ก็ได้บันทึกเรื่องราวเอาไว้ การบันทึกเหตุการณ์มีหลายรูปแบบ มี
ทั้งการถ่ายภาพ สเกตซ์ภาพ วาดภาพด้วยสีน้ำ สีอะคริลิค เกรยอง ชาร์โคล ตาม
แต่สถาณการณ์ที่เหมาะสม เป็นการทำงานที่รวดเร็ว ในเวลาที่จำกัด บางครั้งภาพ
ทีมองเห็นในมุมมองที่แตกต่าง แต่อยู่ในขอบเขตของสายตา เช่น ยอดตึกที่อยู่ คน
ละมุมก็จับมารวมกัน หรือ เติมภาพผู้คนให้เดินขวักไขว่ ตามมุมที่เงียบเหงา  บาง
ภาพตัดทอน บางภาพเติมสิ่งที่ขาดหาย อาจไม่เหมือนภาพถ่าย แต่ให้ความรู้สึก
ทางอารมณ์มากกว่า โทนสีที่ใช้และชอบ คือโทนสีขาวดำ ซึ่งมีเสน่ห์ และเป็นสี
พื้นฐาน สิ่งที่สำคัญที่สุดในการสร้างงานคือการหมั่นฝึกฝน แล้วจะเกิดความแม่น
ยำ ตัวของผมเองจนกระทั่งทุกวันนี้ไม่มีวันใหนที่ไม่ได้ทำงานศิลปะ มีสมุดสเกตซ์
หลายเล่ม วาดไว้ทุกที่ที่ได้ผ่านและประทับใจ

การพัฒนางานที่เป็นเอกลักษณ์จะเป็นการสร้างสรรค์ภาพเหมือนบุคคลด้วยเทคนิค
เกรยอง (crayon) ซึ่งผมจะเขียนเกรยองเกือบทุกวัน นอกจากนี้ยังเขียนภาพเขียน
ทุกแนวไม่ว่าจะเป็นเทคนิคสีน้ำ สีอะคริลิค หรือเทคนิคดิจิตอลเพ้นท์ (digital
paint) ที่ใช้คอมพิวเตอร์ในการสรรค์สร้างงานศิลปะ  แต่ที่ชอบที่สุดคงจะเป็นการ
สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคเกรยอง เหตุผลที่ชอบ “ทีปาด” ของเกรยอง เพราะชอบใน
ความเฉียบขาดฉับไวของสีประเภทนี้ ซึ่งสร้างสรรค์ได้รวดเร็วทันตามใจคิด อีก
ประการหนึ่งคือไม่ชอบสีสันฉูดฉาดแสบตามากนัก น้ำหนักขาวดำที่ได้จากการปาด
ป้ายเกรยองจึงเป็นสิ่งที่ใช้ในการทำงานศิลปะ
แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดการสร้างผลงานคือการท่องไปในโลกโซเชียล การได้
ศึกษาผลงานศิลปะเทคนิคของศิลปินต่างๆ นำมาปรับใช้เป็นแนวทางของตนจน
เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว

จานีน: ดิฉันทราบมาว่าคุณเป็นผู้เริ่มต้นวาดพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์ของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ สีอะคริลิคที่ยาวที่สุดในประเทศไทย ช่วยเล่า
รายละเอียดเรื่องนี้อย่างคร่าวๆ

สุวิทย์: เนื่องในวันที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศร รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จ
สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ยังความเศร้าโศรกเสียใจแก่
พสกนิกรทั่วประเทศ หน่วยงาน องค์กรณ์ต่างๆ ต่างก็ออกมาแสดงความไว้อาลัย
ต่อพระองค์ท่าน และในโอกาสนี้ผมจึงได้เป็นผู้นำรวมพลังศิลปินขัวศิลปะ ”วาด
ภาพเพื่อพ่อ” การบันทึกประวัติศาสตร์ของศิลปินที่ดีที่สุดคือการวาดภาพหรือการ
ใช้ศิลปะให้เกิดประโยชน์มากที่สุดในเนื้อหาในครั้งนี้เป็นประวัติศาสตร์หน้าหนึ่ง
ของชาติไทยที่คนไทยรักพระเจ้าอยู่หัวไม่อาจลืมเลือน ศิลปินได้วาดภาพพระ
สาทิสลักษณ์บนพื้นผ้าใบเขียนด้วยสีอะคริลิค ซึ่งมีขนาดสูง 2.50 × 17 เมตร

ความยิ่งใหญ่ในครั้งนี้เราได้นำศิลปินเกือบ200 ชีวิต ที่มีใจรักพระมหากษัตริย์
น้อมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ รวมพลังกัน”วาด
ภาพเพื่อพ่อ”วาดพระบรมสาทิสลักษณ์ ของพระองค์ท่านโดย ศิลปิน สมาคมขัว
ศิลปะ ในเนื้อหาของภาพเราได้เล่าเรื่องผ่านการวาดภาพ. เป็นครั้งที่เมื่อพระองค์
วัยเยาว์ที่ต่างประเทศ เมืองโลซานประเทศสวิตเซอร์แลนด์/ภาพราชาภิเษก/ทรง
ผนวช/ขึ้นครองราชย์ และภาพที่พระองค์ทรงปิติในการทรงงาน/ภาพพระมหาอัคร
ศิลปินทั้งในด้านดนตรี/ศิลปะ/ด้านการกีฬา/ด้านการเกษตร เป็นภาพต่อเนื่องที่
พระองค์ทรงงาน/พระราชกรณียกิจต่างๆ บนที่สูง เยี่ยมราษฎรตามที่ต่างๆ ภาพ
พระตำหนักสมเด็จย่า ดอยตุงโดยเฉพาะในภาพจะเป็นพื้นที่ที่พระองค์ท่านเคย
เสด็จที่จังหวัดเชียงรายอำเภอแม่สาย ดอยผาหมี และหลายๆ พื้นที่ ภาพที่เป็น
แหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงรายคือวัดร่องขุ่น ท่านอาจารย์เฉลิมชัยท่านได้
สร้างเพื่อถวายเป็นวัดแห่งรัชกาลที่ 9 และภาพต่อเนื่องที่พระองค์ท่าน ครองสิริ
ราชสมบัติ ครบ 70 ปี ซึ่งความยาวของภาพทั้งหมดจะเป็นการเล่าเรื่องตั้งแต่
เริ่มต้นที่อยู่ต่างประเทศและจนถึงครองสิริราชสมบัติ 70 ปี

โดยโทนภาพทั้งหมดเราใช้เป็นภาพโทนขาว-ดำเป็นสีแห่งความศรัทธา เป็นสีโทน
ที่ทำให้เกิดความพอเพียง การวาดภาพเราใช้เวลาวาดภาพตลอดทั้งวันของวันที่
24 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมาตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึงหนึ่งทุ่ม อาจารย์เฉลิมชัย
โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายนายบุญส่ง เตชะ
มณีสถิตย์ นายอมร กิตติกวางทอง วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย ได้มาให้กำลังใจ พี่
น้องศิลปินขัวศิลปะ และประชาชนทั่วไปที่ผ่านไปผ่านมาแล้วแวะนำขนมและ
อาหารมาให้และกิจกรรมสกรีนเสื้อฟรีตลอดทั้งวันโดยกฤษอานันต์ ไชยาสมบัติ
และธนาคาร ไชยาสมบัติ (นักปั่นเยาวชนทีมชาติไทย) ขอขอบคุณ ทุกภาคส่วน
ของราชการและบริษัทเอกชนบริษัทบุญรอด บริวเวอรี่ให้การสนับสนุน สื่อมวลชน
ทุกแขนงที่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมแห่งประวัติศาสตร์ และพี่น้องศิลปินขัวศิลปะทุก
ท่านที่ร่วมกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

ใช่ว่าพวกเราจะวาดพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่านเป็นภาพสุดท้าย แม้น
ว่าต่อจากนี้ไปจะไม่มีพระองค์ท่านแล้ว พวกเราเหล่าศิลปิน ยังยืนยันที่จะวาดพระ
บรมสาทิสลักษณ์ของพระองค์ท่านต่อไป และภาพที่เขียนเสร็จเรียบร้อยเราจะ
ติดตั้งไว้ที่หน้าบริเวณขัวศิลปะแห่งนี้ให้พี่น้องประชาชนที่ผ่านไปผ่านมาแวะเข้ามา
บันทึกภาพประวัติศาสตร์ของพวกเราได้

จานีน: อยากให้เล่าเรื่องการเดินทางไปต่างประเทศในระยะแรกๆ

สุวิทย์: ในช่วงที่ยังทำงานประจำในบริษัท ก็ได้ทำงานศิลปะควบคู่กันไปด้วยจึง
ได้รับคัดเลือกเป็นทูต แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจากหน่วยงานสำคัญในบ้านเมืองและ
เดินทางไปเผยแพร่ศิลปะในต่างประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านในแถบเอเชีย เช่น จีน
ใต้หวัน เวียตนาม ลาว มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมถึงประเทศในทวีปยุโรป เช่น อิตาลี
สเปน เป็นต้น และเมื่อออกจากงานประจำ มาเป็นศิลปินเต็มตัว จึงมีเวลาเดินทาง
ไปศึกษาดูงานหาแรงบันดาลใจ เผยแพร่ผลงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงได้เข้าร่วม
มหกรรมงานสีน้ำโลก ร่วมกับศิลปินชั้นแนวหน้าในประเทศต่างๆ เป็นการแลก
เปลี่ยนเรียนรู้เทคนิคการทำงานและเพื่อพัฒนาผลงานของตน

จานีน: เกี่ยวกับการตัดสินใจหันมาเป็นศิลปินอาชีพอย่างเต็มตัว

สุวิทย์: เมื่อครั้งเป็นนักศึกษาด้านศิลปะก็มีใจรักในงานศิลปะทำงานด้านศิลปะมา
อย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเรียนจบมีครอบครัว จึงต้องมีงานประจำคือทำงานด้าน
โฆษณาในบริษัทเกือบสามสิบปี ถึงแม้ว่าจะเป็นงานศิลปะเหมือนกัน แต่มันก็ไม่ใช่
สิ่งที่เป็นตัวตนของเรา แต่เป็นสิ่งที่ต้องทำเลี้ยงปากท้อง จึงได้สร้างงานจิตรกรรม
ที่เรารักควบคู่กันไปด้วย ทุกครั้งที่มีโอกาสก็จะออกไปให้ความรู้กับนักเรียน
นักศึกษา โดยเป็นอาจารย์พิเศษในเรื่องของการวาดภาพ ทั้งในกรุงเทพและ
ต่างจังหวัด ครั้งหนึ่งเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ.2554 ซึ่งถือเป็นเดือนและปีมหามงคล
ของปวงชนชาวไทย ได้แสดงนิทรรศการเดี่ยว โดยการเขียนภาพพระบรม
สาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ด้วยเทคนิคเกรยอง
จำนวน 84 ภาพ ภายใต้ชื่อนิทรรศการ "84 พรรษา 84 พระบรมสาทิสลักษณ์
ถวายพระพร พ่อของแผ่นดิน" ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นภาพเขียนเกรยองที่มีขนาดใหญ่
และยาวที่สุดในโลก เพราะมีความยาวถึง 2 X 15 เมตร, ซึ่งราคาที่ได้รับการ
ประมูลจับจองภาพเขียนดังกล่าวทำให้เริ่มรู้สึกว่าถึงเวลาที่จะออกมาจากรั้วงาน
ประจำเพื่อเป็นศิลปินเต็มตัวหรือยัง จนกระทั่งเมื่อประมาณสองปีที่ผ่านมา บริษัทที่
ทำงานอยู่ได้ปิดตัวลง เพื่อนพ้องที่เคยทำงานร่วมกันต่างก็เสียใจที่จะได้ออกจาก
งานประจำ ผมคงเป็นผู้เดียวที่รู้สึกดีใจและโล่งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะได้ออกไป
ทำงานที่ตัวเองรักและใฝ่ฝันหาตลอดเวลา

จานีน: ขัวศิลปะกับการกลับมาพัฒนา และเป็นกำลังสำคัญในการจัดงาน
นิทรรศการและขณะนี้มีการจัดแสดงผลงานเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระ
เจ้าอยู่หัวฯ

สุวิทย์: เมื่อออกจากงานประจำก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้านเกิดคือจังหวัดเชียงรายเพราะ
มีความคิดว่า ในกรุงเทพ มีศิลปินชั้นนำที่มีชื่อเสียงมากมายแล้ว ส่วนใน
ต่างจังหวัดคงมีจังหวัดเชียงรายที่มีการรวมตัวกันของกลุ่มศิลปินอย่างเหนียวแน่น
มีศิลปินหลายรุ่นที่มีผลงานและมีชื่อเสียงกว่า 300 คน จึงอยากกลับไปร่วม
สร้างสรรค์และพัฒนาเมืองเชียงรายให้เป็นเมืองแห่งศิลปะ โดยมีศิลปินรุ่นพี่อย่าง
อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ อาจารย์ถวัล ดัชนี นำร่องอยู่ก่อนแล้ว และที่ที่เป็น
ศูนย์รวมของศิลปินและงานศิลปะของเชียงราย คือขัวศิลปะ ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่ม
ศิลปินเชียงราย เป็นสะพานที่จะเชื่อมศิลปะสู่สังคม มีห้องแสดงผลงานศิลปะแบบ
หมุนเวียน ของศิลปินเชียงรายทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นใหม่ๆ รวมถึงศิลปินนานาชาติ เพื่อ
ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเมื่อกลับไปยังบ้านเกิด ก็ได้รับการต้อนรับอย่าง
อบอุ่นจากเพื่อนพ้องศิลปิน โดยได้รับคัดเลือกให้เป็นรองประธานของขัวศิลปะ
เพื่อเป็นการเผยแพร่ผลงานของศิลปิน ยกระดับของศิลปินในเชียงราย ซึ่งไม่ใช่มี
แต่ชาวเชียงรายแต่ยังมีศิลปินจากทั่วประเทศ รวมตัวกันอยู่ที่เชียงรายอย่างเหนียว
แน่น ผมจึงช่วยเป็นกำลังสำคัญในการจัดงานนิทรรศการต่างๆอย่างต่อเนื่อง มีการ
จัดนิทรรศการหมุนเวียนให้ผู้มาเยือนได้รับชมมิได้ขาด ล่าสุดมีการรวมพลังศิลปิน
ขัวศิลปะ..”วาดภาพเพื่อพ่อ” เมื่อจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2559 ณ บริเวณ ลาน
อเนกประสงค์ ด้านหน้าขัวศิลปะ ศิลปินขัวศิลปะมารวมกันแสดงพลัง “วาดภาพ
เพื่อพ่อ” ถวายแด่ในหลวง บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรกและครั้งเดียวของขัว
ศิลปะที่ร่วมกันวาดภาพเพื่อสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
พระองค์ผู้เป็นที่รักเเละเคารพสักการะของปวงชนชาวไทย บนเฟรมขนาด 2.5x17
เมตร โดยศิลปินร่วม 200 ชีวิต นอกจากนี้ผมเองยังมีนิทรรศการที่จะจัดขึ้นเพื่อ
น้อมรำลึก เร็วๆนี้ได้แก่
- วันที่ 14 ธันวาคม 2559 แสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติร่วมกับเพื่อนศิลปิน ณ
โรงแรมโนโวเทล
- นิทรรศการขัวศิลปะ ครั้งที่ 5 “แรงบันดาลใจจากในหลวง” เพื่อน้อมรำลึกในพระ
มหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวง
รัชกาลที่ 9 โดยจะจัดแสดงงานในวันที่ 24 ธันวาคม 2559-30 มีนาคม 2560
- วันที่ 25 ธันวาคม 2559  นิทรรศการ 99 ศิลปินเพื่อแผ่นดินพ่อ ที่ไร่เชิญตะวัน
และอีกหลายๆที่

จานีน: เชียงรายเป็นเมืองศิลปินมีการรวมตัวอย่างเหนียวแน่น มีถนนศิลปิน มีแผน
ที่กำกับเผื่อว่านักท่องเที่ยวจะเดินทางมาเยี่ยมบ้านหรือแกลเลอรี่ของศิลปิน ถือว่า
เชียงรายเป็นเมืองนำร่องและประสบความสำเร็จ ช่วยเล่ารายละเอียดที่น่า
ประทับใจให้ฟังหน่อยค่ะ

สุวิทย์: จังหวัดเชียงราย เป็นเมืองที่สวยงาม มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
มากมาย นอกจากนี้ยังเป็นที่รวมศิลปินที่เป็นคนในพื้นที่กว่า 300 คน นอกจากนี้ยัง
มีศิลปินที่มาจากที่ต่างๆทั่วประเทศที่ประทับใจในกิจกรรมต่างๆ ของศิลปินที่มี
อย่างต่อเนื่องของจังหวัดเชียงรายต่างก็เข้าไปอาศัยอยู่ในพื้นที่อย่างเหนียวแน่น
นอกจากนี้กิจกรรมต่างๆ ที่ทางขัวศิลปะได้จัดขึ้นได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจาก
ทั้งทางภาครัฐและเอกชนเช่น สภาวัฒนธรรม เทศบาลเชียงราย องค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด ภาคเอกชน บริษัทบุญรอด บริเวอรี่ บริษัท ปตท และอื่นๆ ให้การ
สนับสนุนการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของขัวศิลปะ อย่างต่อเนื่อง และนอกจากนี้ยังมี
แกลลอรี่ของศิลปินที่ขึ้นทะเบียนไว้กับวัฒนธรมจังหวัดกว่า 20 แห่ง และที่กำลัง
ดำเนินการจัดตั้งอีกกว่า 20 แห่งเช่นกัน โดยทั้งหมดมีข้อมูลอยู่ที่ขัวศิลปะมีแผนที่
ในการเดินทางไปเยี่ยมชมแกลลอรี่ กลุ่มศิลปินพยายามจัดกิจกรรมทางศิลปะและ
ทำหน้าที่เป็นผู้ให้ความรู้ด้านศิลปะกับนักเรียนนักศึกษาในโรงเรียนและ
มหาวิทยาลัย

นิทรรศการขัวศิลปะ ครั้งที่ 5 The 5th Art Bridge Chiang Rai Art Exhibition
“แรงบันดาลใจจากในหลวง” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โดย ศิลปินใน
สมาคมขัวศิลปะ ร่วมกว่า300ชีวิต
เปิดนิทรรศการวันเสาร์ ที่ 24 ธันวาคม 2559 เวลา 18.00 น.
นิทรรศการจัดแสดง 24 ธันวาคม 2559- 30 มีนาคม 2560
ณ ขัวศิลปะ เชียงราย ไม่มีค่าเข้าชม เวลา 10.00-19.00 น. ทุกวัน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 088-418-5431, 053-166-623
artbridge.cr@gmail.com หรือwww.facebook.com/artbridgechiangrai

ประวัติการแสดงผลงานศิลปะ
- แสดงศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติครองราชย์สมบัติ 50ปี ธนาคารกสิกรไทย
- แสดงศิลปกรรมเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา ธนาคารกสิกรไทย
- แสดงศิลปกรรมครองราชย์สมบัติ 50ปี บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
(ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย)
- แสดงศิลปกรรม ปตท. เศรษฐกิจพอเพียง
- แสดงจิตรกรรมสีน้ำเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อัครศิลปิน (สยามพารากอน)
- แสดงจิตรกรรมบ้านและสวนแฟร์ 2007-2008 เมืองทองธานี
- ร่วมแสดงศิลปกรรมกลุ่มสล่าเมืองพาน (ศิลปกรรมและดนตรี) หอประชุมเมือง
พาน จ.เชียงราย
- ร่วมแสดงศิลปกรรม ฮ่มป้าฮอมปอย ที่ 9  อาร์ต แกลลอรี่ เชียงราย
- นิทรรศการศิลปกรรม ดวงใจแผ่นดิน ที่อาคารธนิยะพลาซา
- นิทรรศการศิลปกรรม ปาดวาดฝัน เส้นสี   ที่ 9 อาร์ต แกลลอรี่ เชียงราย
- งานนิทรรศการศิลปะและการสาธิตผลงานที่ Fabriano Paper Museum เมือง
ฟาบริเอโน ประเทศอิตาลี
- งานนิทรรศการศิลปะและการสาธิตผลงานที่สำนักงานใหญ่ของ Roman
Watercolorist Association ปิอาซา เดล โปโปโล ประเทศอิตาลี
- งานนิทรรศการสีน้ำ เวียดนาม-มาเลเซีย-ไทย จัดขึ้นที่Vietnam Fine Arts
Museum กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม
- งานนิทรรศการสีน้ำ เวียดนาม-มาเลเซีย-ไทย จัดขึ้นที่Warren Art Gallery
กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลยเซีย
- งานนิทรรศการ The 1^st International Watercolor Exhibition ที่ IWS
 Vietnam 2015 กรุงฮานอย ประเทสเวียดนาม
- นิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ สบายดีวังเวียง I Cat Gallery, กรุงเวียงจันทร์
ประเทศลาว
- งานนิทรรศการเรื่องความรัก โดย 34 ศิลปินที่มีชื่อเสียง จัดที่Sathorn 11
art space กรุงเทพ
- นิทรรศการสีน้ำ ฉลองครบรอบ 234 ปี รัตนโกสินทร์ จัดที่ 333 Gallery กรุงเทพ
- งานนิทรรศการ The Double Great For Charity# 3 กรุงเทพ
- นิทรรศการ "สีสันแห่งชีวิต" เปิดให้ชม 15 ตุลาคม - 11 พฤศจิกายน 2559 ณ
ขัวศิลปะ เชียงราย 

Search This Issue

|

Search The Archives

|