อัษฎเดช โขมรัตน์เป็นศิลปินไทยจากทางภาคใต้ที่มาเรียนที่สถาบันในภาคเหนือ ของประเทศไทย อัษฎเดชเป็นนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล ล้านนา วิทยาเขตพายัพในจังหวัดเชียงใหม่ หนึ่งในผู้สอนศิลปะของคนหนึ่งของ อัษฎเดช คืออาจารย์ศรีใจ กันทะวังที่ดิฉันได้เขียนถึงใน Scene4 (เดือนกันยายน
พ.ศ. 2556 และเดือนธันวาคม พ.ศ. 2557) ตามที่ดิฉันได้พูดถึงไว้ก่อนหน้านี้ อาจารย์ศรีใจเป็นศิลปินภาพพิมพ์ที่จัดตั้งศรีใจ อาร์ต สตูดิโอในอำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ สถานที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นห้องแสดงผลงาน ห้องทำงานและ ร้านอาหารแบบฟิวชั่นซึ่งนักเดินทางและครอบครัวสามารถเข้าชมผลงานภาพพิมพ์ และรับประทานอาหาร
เริ่มต้นด้วยการเป็นผู้ช่วยของอาจารย์ศรีใจในขณะที่เป็นนักศึกษา อัษฎเดชมี ความเชื่อว่าอาจารย์ศรีใจเป็นคนจิตใจดีและช่วยเหลือนักศึกษาทุกคน และยังเป็น ผู้ให้แรงบันดาลใจกับนักศึกษาที่เรียนในคณะจิตรกรรมและภาพพิมพ์ของ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา หลังจากจบการทดลองงาน อัษฎเดช
จัดงานนิทรรศการท้องถิ่นให้กับศิลปินล้านนาและเชิญอาจารย์ศรีใจมาเป็นประธานใน พิธีเปิดสำหรับกลุ่มจัตวาศิลป์ซึ่งอัษฎเดชและเพื่อนๆ เป็นสมาชิก ศิลปินกลุ่มนี้มี ความเชี่ยวชาญในการทำภาพพิมพ์ตะแกรงไหมและจัดงานศิลปะหลายครั้งที่ขัว ศิลปะ จังหวัดเชียงราย และเฮินศิลป์ใจ๋ยอง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อไม่นานมานี้ทาง
กลุ่มจัตวาศิลป์ได้จัดทำเสื้อลายภาพพิมพ์ตะแกรงไหมเพื่อหาทุนให้กับ โรงพยาบาลพัทลุง นอกเหนือจากนี้อัษฎเดชและเพื่อนในกลุ่มจัตวาศิลป์ได้ ออกแบบผ้าสำหรับสินค้าประเภทเสื้อ กระเป๋า หมวกและป้ายผ้าโดยใช้ภาพพิมพ์ ตะแกรงไหม
เนื่องด้วยเหตุการณ์สวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชในปี พ.ศ. 2559 อัษฎเดชเขียนจดหมายแสดงความอาลัยต่อการจากไปของ พระองค์ท่านและได้มอบผลงานภาพพิมพ์ตะแกรงไหมที่จัดทำเป็นจำนวนจำกัด อัษฎเดชมาเยี่ยมดิฉันสองครั้งในปีพ.ศ. 2560 ในแต่ละครั้งก็ได้มอบภาพพิมพ์
หนึ่งภาพที่อยู่ในผลงานชุดนั้น จากการพบกันเมื่อปีที่ผ่านมา อัษฎเดชพูดถึง โครงการจัดทำภาพพิมพ์จากพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชที่น่าจดจำมีจำนวนทั้งหมด 9 ภาพ การสนทนาดำเนินไปอย่าง ราบรื่นดิฉันพบว่าอัษฎเดชเป็นผู้ที่น่าสนใจ ในปีนี้การพูดคุยนั้นครอบคลุมถึงเรื่อง ประวัติส่วนตัวและผลงานชุดล่าสุด
จากนี้ไปเป็นเนื้อหาจากจดหมายที่อัษฎเดชมอบให้ดิฉันในปีที่แล้ว
งานศิลปะชุด “รำลึก น้อมส่งเสด็จสู่สรรคาลัย”
งานศิลปะชุดนี้ได้นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 มาทำงานศิลปะในรูปแบบภาพพิมพ์ในเทคนิค “แม่พิมพ์ตะแกรงไหม” เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ ของ พระองค์ โดยข้าพเจ้าได้นำภาพพระบรมฉายาลักษณ์มาทำงานศิลปะทั้งหมด 9
ภาพ โดยร้อยเรียงทั้ง 9 ภาพนี้ให้เห็นพระอัจฉริยภาพของพระองค์ โครงสีที่จะใช้ ในงานชุดนี้จะเป็นโครงสีประจำรัชกาลของพระองค์
สีน้ำเงินเป็นสีแห่งกษัตริย์ สีเหลืองเป็นสีประจำรัชกาลของพระองค์ สีครีมโดยข้าพเจ้าเปรียบเหมือนสีดินซึ่งพระองค์คือพลังแห่งแผ่นดิน
งานชุดนี้ 1 ภาพจะมี 3 ชิ้นและเสื้อเบอร์M 1 ตัวเท่านั้น 2 ชิ้นจะมอบให้กับผู้ที่ สนใจงานศิลปะ อีกชิ้นหนึ่งกับเสื้ออีกหนึ่งตัวที่มีอยู่ตัวเดียวเท่านั้น ข้าพเจ้าได้เก็บ เป็นผลงานศิลปะส่วนตัวและจะไม่มีการทำเพิ่มอีก ซึ่งผู้ที่ได้ครอบครองจะได้ ภาคภูมิใจเพราะจะมีแต่สองท่านเท่านั้นกับข้าพเจ้าจะได้ครอบครองในแต่ละภาพ
ของงานชุดนี้
พระองค์จะสถิตในใจของข้าพเจ้าและคนไทยตลอดไป
งานศิลปะทั้ง 9 ภาพนี้จะทำระหว่างวันที่ 13 ตุลาคม 2560 – 5 ธันวาคม 2560 ขอขอบพระคุณอย่างสูงกับผู้ที่สนใจในงานศิลปะภาพพิมพ์ และดีใจที่ได้มอบงานศิลปะให้กับท่าน อัษฎเดช โขมรัตน์ศิลปินอิสระ เชียงใหม่ ประเทศไทย
จากนี้ไปคือบทสัมภาษณ์ จานีน:อยากทราบเรื่องเกี่ยวกับการเรียนและอาชีพทางศิลปะของคุณ
อัษฎเดช: ผมเกิดที่จังหวัดพัทลุงทางภาคใต้ของประเทศไทย จากนั้นผมย้ายขึ้น เหนือมาเรียนจิตรกรรมที่วิทยาลัยอาชีวศึกษาลำปาง สำหรับวุฒิประกาศนียบัตร วิชาชีพชั้นสูง ผมได้ไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนาใน จังหวัดเชียงใหม่ วิชาที่ผมสนใจคือภาพพิมพ์ตะแกรงไหม หลังจากที่เรียนจบผม
ได้ทำงานเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาพพิมพ์ตะแกรงไหมให้กับบริษัทหลายแห่งใน ประเทศไทย เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ผมมีความสนใจในการฝึกฝนศิลปะหลาย แขนงโดยเฉพาะอย่างยิ่งงานภาพเขียน งานสื่อผสม และงานภาพพิมพ์เพื่อหาวิธีที่ มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการทำงานซึ่งขึ้นอยู่กับเวลาและความชอบของผม ผม
ไม่เคยส่งผลงานไปแข่งขันในงานศิลปะแต่ผลงานของผมสามารถพบเห็นได้บ่อย ตามงานนิทรรศการทางศิลปะ
จานีน: อะไรคือแนวคิดของผลงานชุดล่าสุดของคุณ
อัษฎเดช: ผลงานชุดล่าสุดของผมมีชื่อว่า “ขาวดำในมุมมองภายในเบื้องลึกของ ข้าพเจ้า” ผลงานภาพพิมพ์ชุดนี้บอกเราถึงเรื่องต่างๆ เช่นมุมมองของผมเกี่ยวกับชีวิตที่” ผลงานภาพพิมพ์ชุดนี้บอกเราถึงเรื่องต่างๆ เช่นมุมมองของผมเกี่ยวกับชีวิตที่
มีต่อหลายๆสิ่งรอบตัวในอดีต ปัจจุบันและอนาคตที่น่าจะเกิดขึ้น ความเข้ากันได้ ความขัดแย้งในรูปทรงและรูปแบบต่างๆ และความผันผวนของเวลาอาจมีผลต่อ สภาพจิตใจและจินตนาการของผู้คน ความตั้งใจของผมคือการใช้สีดำและสีขาว เพราะผมเชื่อว่าทั้งสองสีเป็นตัวแทนของการกระทำที่ดีงามและชั่วร้าย นอกจากสี
ดำและสีขาวแล้วผมอยากจะพูดเสริมว่าสีเทาก็สำคัญในการจัดประเภทของคน เช่นกัน ผมจึงตั้งใจใช้สีทั้งสามสีนี้สร้างมิติที่มีความเด่นชัด ความหนา ความบาง และความลึกของรูปทรงในจินตนาการของผม
|