นับเป็นความโชคดีและน่ายินดีสำหรับประเทศไทยที่แวดวงศิลปะ สร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือดังกล่าวนำไปสู่ความเชื่อมั่นและการ แลกเปลี่ยนความรู้ หาวิธีร่วมกันในการเผยแพร่งานศิลปะโดยการเปิด ตลาดออนไลน์การประมูลงานศิลปะอย่างต่อเนื่อง สามารถเห็นได้อย่าง
เป็นระบบ มหาวิทยาลัยทั่วประเทศและในภาคเอกชนที่เปิดให้มีการจัด เทศกาลสร้างความตระหนักรู้ของชุมชนมากขึ้น มีงานแลกเปลี่ยนกับ ชาวต่างชาติและประเทศเพื่อนบ้านมากมายเช่นเดียวกับในปี 2561 เทศกาลศิลปะนานาชาติบางกอกอาร์ตเบียนนาเล่จัดขึ้นในประเทศไทย เป็นครั้งแรก
เป็นงานที่ ชวนให้เราค้นหานิยามแห่งความสุขภายใต้แนวคิด "Beyond Bliss" หรือ "Happy with the Power of Art" ผ่านมุมมอง ของศิลปินระดับโลกและความร่วมมือในระดับประเทศ และอีกงาน Thailand Biennale, Krabi มีสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยกระทรวง วัฒนธรรมและจังหวัดกระบี่ เป็นเจ้าภาพจัดงาน
มาถึงปี 2020 ซึ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งของ Bangkok Art Biennale (BAB) ซึ่งเป็นเทศกาลศิลปะสองปีในเมืองหลวงของประเทศ ไทย BAB มีระยะเวลาสี่เดือน ซึ่งเมืองที่พลุกพล่านของกรุงเทพฯจะ เปลี่ยนเป็นศูนย์กลางทื่ มีชีวิตชีวาซึ่งเฉลิมฉลองศิลปะความคิด สร้างสรรค์และวัฒนธรรม
ผู้เข้าชมสามารถดื่มด่ำไปกับงานศิลปะและการแสดงจากศิลปิน หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ ทั่วใจกลางกรุงเทพฯ ในแกลเลอรี พื้นที่สาธารณะและสถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ พวกเขามาพร้อม กับการประชุมการประชุมเชิงปฏิบัติการการเยี่ยมชมพร้อมมีรูปแบบใน
การดูงานและสิ่งพิมพ์เพื่อให้แน่ใจว่าได้รับประสบการณ์ที่น่าจดจำและ เป็นองค์รวม
ปีนี้นับเป็นงวดที่ 2 ของ BAB ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2564 ซึ่งสอดคล้องกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทยที่ให้การสนับสนุนการท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นลำดับต้น ๆ ด้วยวิกฤตโควิด -19 ที่ระบาดอยู่ แต่ศิลปะยังคงทำงานอย่างต่อเนื่อง
เป็นการเคลื่อนไหวอย่างเงียบ ๆ ของกองกำลังที่สร้างงานและให้ความรู้ แก่ผู้สนใจ
ยุทธกิจ ประสมผลเป็นศิลปินวาดภาพและปั้น เมื่อเร็ว ๆนี้เขาได้ ดำเนินงานกำกับการติดตั้งพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ที่อยู่ด้านนอกวัด เขาวงจังหวัดสระบุรี ยุทธกิจ ประสมผล เป็นเจ้าของโรงงานปั้นงาน
ประติมากรรม ชื่อโอเอซิสอาร์ตตั้งอยู่ที่คลอง 7 จังหวัดปทุมธานีไม่ไกล จากกรุงเทพฯ เป็น สถานที่เขาเรียกว่าเป็น พิพิธภัณฑ์ส่วนตัวที่เขาสร้าง ผลงานศิลปะและใช้เป็นแหล่งความรู้ในการสอนงานให้กับผู้สนใจและ กลุ่มเยาวชนจากโรงเรียนต่างๆมานานเกือบสิบปี
ด้านล่างนี้ นี่คือบทสัมภาษณ์ของดิฉันกับคุณยุทธกิจ ประสมผล
JY.อะไรคือแรงบันดาลใจในการทำงานปัจจุบันของคุณ
YP. แรงบันดาลใจของผมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับช่วงเวลาของชีวิต ภาพวาดและประติมากรรมสากลที่ผมได้เคยเห็นในธรรมชาติ ชีวิต ปรัชญาและความเชื่อของเอเชีย ผมศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะและพุทธ ศาสนา ผมจึงได้รับแรงบันดาลใจให้ใช้ส่วนที่ดีที่สุดของแต่ละยุคสมัย มาทำงานศิลปะ กิจวัตรของผมในฐานะศิลปิน มักเป็นรูปแบบของ
ประติมากรรมทางพุทธศาสนาและภาพวาดพระพุทธเจ้าร่วมสมัย มีคน ถามผม เช่นสมัยพุทธกาลที่ผมปั้นคืออะไรผมตอบไม่ได้เพราะจะเอา ส่วนดีของแต่ละยุคมาผสมผสานในรูปแบบของผม บางครั้งก็นำมาร่วม สมัย เป็นการนำความรู้ที่เป็นสากลในกายวิภาคศาสตร์มาใช้ แต่ต้อง อาศัยความคงที่และเหตุผลที่ทำให้เกิดสันติภาพ
แรงบันดาลใจของผมสำหรับงานประติมากรรมภาพวาดส่วนใหญ่ของผม มักทำให้เกิดความหลงใหลในรูปแบบที่มี ร่างกายกล้ามเนื้ออารมณ์ ท่าทางภาษากายการแสดงออกทางสีหน้า ซึ่งเป็น ธรรมชาติของมนุษย์ ดังนั้นผมมักจะเห็นผลงานของผมในรูปแบบของภาพบุคคลและ สัญลักษณ์ ทั้งจิตวิญญาณและรูปแบบ ประติมากรรม ผมสนใจในการ
สื่อสารภาษาอารมณ์พลังการเคลื่อนไหวและ สันติภาพ สิ่งเหล่านี้เป็น แรงบันดาลใจให้ตั้งใจทำงาน
มีหลายช่วงของชีวิตที่หลายสิ่งนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามแรงจูงใจใน ขณะนั้น ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการฝึกอบรมและความรู้การได้มาซึ่ง ทักษะเพื่อรองรับแรงบันดาลใจในอนาคต จะไม่มีข้อ จำกัด ในการ สร้างสรรค์งาน
เริ่มแรกผมสนใจศิลปะคลาสสิกเป็นหลักโดยฝึกฝนและศึกษาจนอิ่มตัว ผม เริ่มรักสีที่ใช้วาดภาพ ศึกษาจิตวิทยาสีและการใช้พู่กันเป็นเรื่องสนุก มากที่หลายคนติดตามในรุ่นต่อมา บางครั้งก็ลืม บางครั้งก็จำแบบงานรูป เหมือนที่แบบเดิมๆ วันดีคืนดีผมก็กลับมาวาดรูปอีกครั้ง
JY.ช่วยเล่าเกี่ยวกับภาพวาดสำคัญที่คุณได้ทำและ ต้องการแสดงให้ ผู้อ่านของเราทราบ
YP. ผลงานทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผมที่ผมภาคภูมิใจคือ การวาดภาพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อเผยแพร่พระ บารมี สื่อถึงพระราชกรณียกิจด้านพระราชกรณียกิจที่พระองค์ทำเพื่อ การสร้างชาติ ทั้งหมดนี้กลายเป็นภาพประกอบสำหรับปฏิทินขององค์กร ต่างๆที่ได้ทำมาตลอด
อีกผลงานที่ได้รับการยกย่องคือภาพวาดประวัติศาสตร์ที่ในพระราชวัง หลวง ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงร. 9. ผมรู้สึก เป็นเกียรติที่ได้ร่วมวาดภาพจดหมายเหตุประวัติศาสตร์ ณ. ท้อง สนามหลวงในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จพระเจ้าพี่ นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา
JY.กรุณาเล่าให้ดิฉันทราบเกี่ยวกับประวัติของคุณ
YP. ผม เป็นเด็กที่เติบโตในชนบท เกาะเล็ก ๆ ในจังหวัดพังงา เดิมที เกิดที่นครศรีธรรมราชพ่อแม่ของผมย้ายไปอยู่ที่เกาะยาว เพื่อทำธุรกิจ เกี่ยวกับผ้าและเสื้อผ้า ผมจบมัธยมต้นที่นั่น ด้วยความหลงใหลในศิลปะ ผมจึงได้รับคัดเลือกให้เข้าร่วมการประกวดในงานทางวิชาการ ผมเป็น
ตัวแทนในงานศิลปะมาโดยตลอด เป้าหมายของผม ชัดเจนในตอนนั้น คือการศึกษาศิลปะ เมื่อผมเรียนจบมัธยมปลายเป้าหมายของผมคือไป กรุงเทพเพื่อสอบเข้าสายศิลปศาสตร์ สถาบันที่ชื่อเสียงที่สุดในประเทศ คือวิทยาลัยช่างศิลป ผมได้เข้าเรียนที่นั่นเป็นเวลาสามปี ในระดับปวส. อีกสองปีในคณะประติมากรรม
การเป็นเด็กบ้านนอกที่ต้องพึ่งตัวเอง มันทำให้ผม รู้ว่าจะหารูปแบบใด มาช่วยนักศึกษาศิลปะ และศิลปินอื่นๆ ตลอดจนอาจารย์ อีกหลายท่าน จนกระทั่งวันหนึ่งผม สามารถสร้างผลงานของตัวเองให้เป็นที่ประจักษ์ แก่นักสะสมทั้งงานจิตรกรรมและประติมากรรม
ก่อนหน้านั้นขอเล่าเส้นทางอาชีพที่ผ่านมาหลังจากออกมาเดินเส้นทาง ศิลปะอย่างเต็มตัว เริ่มแรกผม เลือกทำงานในสาขาจิตรกรรมคือ เดินทางเพื่อขายภาพในแกลเลอรี่ในกรุงเทพฯ แต่มันไม่ประสบ ความสำเร็จเท่าที่ควรเนื่องจากทักษะและประสบการณ์ของเรายังไม่ดี
พอ ดังนั้นผมจึงตัดสินใจเลือกการฝึกวาดรูป ชีวิตของผมมุ่งเน้นไปที่ เส้นทางแห่งจิตวิญญาณเต็มรูปแบบ แต่ความคลั่งไคล้งานประติมากรรม ของผมไม่เคยหยุด เมื่อพร้อมผม ก็เริ่มกลับมาฝึกฝนเพิ่มพูนทักษะใน ด้านนี้
ภาพวาดของผมปรากฎอยู่ อยู่ในสิ่งพิมพ์ต่างๆ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ยากที่จะ กลับไปสร้างประติมากรรมที่เป็นที่รู้จักกันดี หลังจากนั้นความตั้งใจของ ผมคือโครงการที่จะเปิดโรงงานประติมากรรม ผมออกไปเยี่ยมคนที่ สร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบของครอบครัวช่างฝีมือ และกิจกรรม
เวิร์คช็อป เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อน ๆ พี่ ๆ งานศิลปะและ เปิดให้นักศึกษาดูการฝึกงานตลอดจนผลงานส่วนตัวเกี่ยวกับศิลปศึกษา ในรูปแบบของอาจารย์และครูอาสาซึ่งเป็นวิธีที่ผมใช้ชีวิตจากอีกมุมหนึ่ง มานำเสนอ
JY.ช่วยเล่าเกี่ยวกับ โรงปั้นคลอง 7 OASIS ART จังหวัดปทุมธานี
YP. ผมทำโรงงานปั้นงาน ประติมากรรมไม่ใช่แค่สตูดิโอทำงานเพียง แห่งเดียว เรามีเวิร์คช็อปสำหรับรุ่นน้องมาหลายปีแล้ว
ความตั้งใจของผมคือการสื่อสารและทำให้ผู้คนเข้าใจทักษะการฝึกฝน เหล่านี้ ในเรื่องนี้เราเพียงแค่พูดและให้คำแนะนำในสิ่งที่เรารู้อย่าง เชี่ยวชาญจากการปฏิบัติงานจริง ไม่เป็นไปตามตำรา การทำความเข้าใจ และเข้าถึงปัญหาทางเทคนิคเป็นประสบการณ์ที่เราเคยผ่านมา
ผมได้รับแรงบันดาลใจจากการเผยแพร่ความรู้โดยประสบการณ์ทั้งหมด ของผมที่มี ในอดีตจะกล่าวได้ว่า เป็นเหมือนอาหารสำเร็จรูปสำหรับคน ที่สนใจฝึกฝนและศึกษาศิลปะ
อีกอย่างหนึ่ง ผมมีความเชื่อ เชื่อในแนวทางของพุทธศาสนา ผมเชื่อใน ผลบุญของการให้ซึ่งทำให้ผมสามารถ ทำอะไรก็ได้เกี่ยวกับการให้ การศึกษา
การสอนด้วยศรัทธาของเราให้ความรู้ วิถีพุทธศาสนา ให้แก่ผู้คน
ปัญญาเป็นบ่อเกิดแห่งความสำเร็จในทุกมิติ ผมเชื่ออย่างนั้น
|