ชาวต่างชาติหลายคนคิดว่าอาหารไทยเป็นอาหารที่มีสูตรเดียว ถึงแม้ว่าจะมีความ สอดคล้องกันในอาหารไทยทั่วทั้งประเทศ แต่ก็มีความแตกต่างทางท้องถิ่นซึ่งมี อิทธิพลมาจากสภาพอากาศในท้องถิ่น ประเทศเพื่อนบ้านและวัฒนธรรมของ ประเทศเหล่านั้นและประวัติศาสตร์ ตัวอย่างที่ดีอย่างหนึ่งคือแกงของไทยซึ่ง แพร่หลายทั่วไปในภาคเหนือที่ดิฉันอาศัยอยู่ ด้วยความมหัศจรรย์ของหน้ากระดาษ ที่พิมพ์ออกมา ดิฉันอยากให้คุณได้ลองรสชาติของอาหารจานนี้ที่อาจให้แรง บันดาลใจสำหรับคุณ ไม่เพียงแต่จะเป็นการผจญภัยมากไปกว่าเดิมเท่านั้นแต่ยัง เป็นการสร้างความเข้าใจอีกด้วย
วันที่ดิฉันตื่นขึ้นมาและเตรียมตัวไปซื้อของที่ตลาดในเตือนมีนาคม บรรยากาศรอบ ข้างดูไม่เหมือนกับสิ่งที่ดิฉันเคยได้เขียนเกี่ยวกับอากาศของเชียงใหม่ใน Scene4 ฉบับก่อนๆ หมอกควันจากป่าปกคลุมเมืองทั้งเมืองและผู้คนเห็นว่าสีของท้องฟ้า กลายเป็นสีเหลืองเหมือนกับทะเลทราย นี่เป็นสัญญานบอกว่าโลกกำลังร้อนขึ้นซึ่ง พวกเราต้องระมัดระวังและดูแลสภาพแวดล้อมอย่างจริงจังมากกว่านี้เพราะ เชียงใหม่เคยได้ชื่อว่าเป็น "ดินแดนแห่งดอกกุหลาบ" และทุกวันนี้คงเห็นแบบนั้น ได้ยากแล้ว
ดิฉันขับรถไปเยี่ยมวัดโลกโมฬีซึ่งเป็นวัดเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ในช่วงการบูรณะและ ประดับตกแต่ง หลายคนมาที่นี่เพื่อถวายอาหารแก่พระสงฆ์ แสงพระอาทิตย์ในยาม เช้าไม่สว่างอย่างที่ควรจะเป็น จุดมุ่งหมายต่อไปของดิฉันคือตลาดสดที่ดิฉันไปซื้อ เครื่องปรุงที่ต้องการ ดิฉันยังต้องตรวจดูว่าผู้ช่วยของดิฉันสามารถมาที่บ้านของ ดิฉันได้ทันเวลาเพื่อที่จะทำแกงที่เรียกว่าฮังเลได้ทันหรือไม่ แกงฮังเลเป็นแกงทาง เหนือที่ได้รับอิทธิพลมาจากแกงพม่าแม้ว่าเครื่องแกงโดยดั้งเดิมแล้วมาจากอินเดีย
แกงฮังเลที่ดิฉันต้องการนำเสนอในครั้งนี้มีรสชาติเหมือนกับแกงไก่และแกงเผ็ด เนื้อและมีลักษณะเหมือนกับแกงบาหลีแต่รสชาติไม่หวานเกินไปและมีน้ำมะขาม ซึ่งมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ดิฉันพยายามหาตลาดที่ขายของในแบบเดียวกับเมื่อ 50 ปี ที่ผ่านมา การซื้อเตรื่องปรุงจากซุปเปอร์มาร์เก็ตหรือห้างสรรพสินค้าเช่น มาโคร เทสโก้ โลตัสหรือคาร์ฟูร์นั้นไม่ค่อยเหมาะสมเพราะบ่อยครั้งที่เราจะไม่ได้เนื้อ ตามที่ต้องการ เนื้อจะต้องสดและไม่ถูกแช่แข็ง สิ่งเดียวกันนี้เป็นจริงกับเครื่องปรุง อื่นๆ
นอกเหนือจากนี้ดิฉันได้ถ่ายภาพดอกไม้สีขาวในวัดและพ่อค้าแม่ค้าที่ขายผลไม้ ตามฤดูกาลราคาถูกเช่นมะม่วงทั้งดิบและสุก ในฤดูกาลนี้มะม่วงสามารถปรุงเป็น อาหารหลักเช่นส้มตำมะม่วงที่ใช้มะม่วงดิบและของหวานเช่นข้าวเหนียวมะม่วงที่ ใช้มะม่วงสุก ถ้ามีโอกาสอีกครั้ง ดิฉันจะเขียนเกี่ยวกับอาหารอีกครั้งเพราะว่ามัน อร่อยมากๆ
กลับมาเข้าเรื่องกันต่อ ดิฉันได้ซื้อซองเครื่องแกงมาจากร้านค้าปลีกและถามข้อมูล เพิ่มเติมจากผู้ขายเกี่ยวกับสูตรทำแกงฮังเลเพื่อให้แน่ใจถึงวิธีทำที่แตกต่างกันของ แกงนี้ จังหวัดต่างๆเช่นเชียงใหม่ ลำพูนและลำปางมีสูตรของตัวเองแต่ส่วนผสม หลักนั้นเหมือนกันคือใช้เนื้อหมูและเนื้อหมูติดมันและดิฉันยังใช้ถั่วลิสงและน้ำ กระเทียมดองอีกด้วยดิฉันยังรู้สึกสนใจและสงสัยเกี่ยวกับว่าจะใช้สูตรไหน ทำอาหารดี ในบางจังหวัดก็ใช้สับปะรดและกระท้อนทำรสเปรี้ยวเช่นกัน
มันค่อนข้างน่าสนใจที่ว่าแกงฮังเลนั้นเป็นอาหารยอดนิยมสำหรับหลายๆโอกาส เช่นเดียวกับไก่งวงและไก่ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป แกงฮังเลนั้นจะมีการปรุงใน วันที่มีพิธีทางศาสนาและเมื่อครอบครัวมารวมตัวกัน เช่นตอนเทศกาลขึ้นปีใหม่ ไทยในเดือนเมษายน
เมื่อดิฉันกลับมาที่บ้านในตอนกลางวันหนึ่งในนักเรียนของดิฉันถามพี่สาวของเธอ เกี่ยวกับเกี่ยวกับสูตรแกงฮังเลและดิฉันพบว่าสูตรของเชียงใหม่มีถั่วลิสงด้วย ใน ที่สุดผู้ช่วยของเราก็มาถึง เราเรียกเธอว่าพี่แดง เธอพึ่งกลับมาจากลำพูนและเต็ม ใจช่วยดิฉันทำอาหารสำหรับทุกคนในบ้านให้เสร็จ
นี่คือสูตรสำหรับการทำแกงฮังเล เนื้อหมูส่วนคอหมู 1 กิโลกรัม เนื้อหมูสามชั้น ¼ กิโลกรัม (** ส่วนผสมเหล่านี้นำไปผสมรวมกันในครกหรือเครื่องปั่นอาหาร) ** พริกแห้งแกะเมล็ดออก 10 เม็ด ** หอมแดง ½ ถ้วย ** เคย 1 ช้อนชา ** กระเทียม 1 ถ้วย ** เกลือ 1 ช้อนชา ** ข่า ½ ถ้วย ** ตะไคร้ 2 ช้อนโต๊ะ ** รากผักชี 1 ราก เครื่องแกง tikka masala หรือเครื่องแกงฮังเล 1 ช้อนโต๊ะ ขิงซอย 200 กรัม น้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ กระเทียม ½ ถ้วย น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ ซีอิ๊วขาวและดำอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำเปล่า 4 ถ้วย
|
|
พี่แดงได้เตรียมเครื่องปรุงต่างๆดังต่อไปนี้ - ผสมเนื้อหมูและหมูสามชั้นกับเครื่องแกงที่เตรียมไว้ลงในหม้อใบใหญ่ทิ้งไว้ ประมาณ 30 นาที - ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะรอจนน้ำมันร้อนหลังจากนั้นนำเนื้อหมูและเนื้อหมูสามชั้น ที่ผสมแล้วใส่ลงในกระทะ - นำเครื่องแกงใส่ลงในกระทะแล้วรอจนร้อนจากนั้นจึงเติมเครื่องแกงฮังเลหรือ tikka masala 1 ช้อนโต๊ะแล้วคนจนกระทั่งมีกลิ่นหอม - เติมน้ำลงไปประมาณ 4 ถ้วย (ครั้งละ 1 ถ้วยทุก 20 นาที) ถ้ากระทะแห้งมากและ ปรุงต่อไปอีก 1 ชั่วโมงครึ่ง – 2 ชั่วโมงด้วยไฟปานกลาง - เติมซีอิ้วขาวและดำอย่างละ 2 ช้อนโต๊ะ - เติมน้ำมะขาม ½ ถ้วย - เติมน้ำตาลปึก 1 ช้อนโต๊ะ - เติมกระเทียม ½ ถ้วยและขิงซอย 200 กรัม - เมื่อหมูนุ่มแล้วจึงปิดเตาแก็ส รับประทานได้เลย
แกงฮังเลสามารถรับประทานกับอาหารหลายอย่างเช่นข้าวเหนียว ข้าวกล้อง ข้าว สวย ก๋วยเตี๋ยว โรตี ขนมปังโฮลวีต หลังจากที่เราแบ่งนำไปถวายพระแล้ว เราก็ รับประทานพร้อมกันกับครอบครัวในตอนกลางวันและตอนเย็น
พี่แดงมาจากจังหวัดลำพูนซึ่งอยู่ห่างจากจังหวัดเชียงใหม่ 30 กิโลเมตร เธอไม่ใช้ ถั่วลิสงดังนั้นก็เลยไม่มีถั่วลิสงในแกงถ้วยนี้ ครอบครัวของเธอขายอาหารที่ตลาด เช้าในจังหวัดลำพูนมานานแล้วและดิฉันเห็นเธอทำอาหารและรสชาติก็ดีมาก ดิฉัน ทราบว่าสูตรของเธอจะไม่ทำให้คุณผิดหวังไม่ว่าคุณจะเป็นชาวพุทธหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตามคุณสามารถเปลี่ยนเนื้อหมูเป็นอะไรที่คุณชอบก็ได้ความ สนุกสนานในการสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึงก่อนอื่น
|