เทศกาลเดอบุสซี่
ข้างนอกมีมรสุม
ทำให้เชียงใหม่มีความน่าสนใจมากขึ้น
ปี ค.ศ. 2005 เป็นการกลับมาครั้งที่สองของดร. เบนเน็ตเลินเนอร์ และกลุ่มเพื่อนในคอนเสิร์ตครั้งที่สองนับจากปี ค.ศ. 1997 ด้วยความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ คอนเสิร์ตนี้ได้รับการจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ โคลด เดอบุสซี่
การผสมผสานอันน่ารักของรูปแบบตะวันตกและตะวันออกและการนำเสนอเสียง อันไพเราะของเครื่องดนตรีหลายชนิดในบทเพลงเดียวกัน ความหวานซึ้งแบบธรรมชาติและความเป็นอิสระจากจังหวะดนตรีร่วมสมัยทำให้ผู้คนประ ทับใจอย่างง่ายดาย ไม่น่าประหลาดใจเลยที่ว่าผู้รักดนตรีทั่วโลกรู้จักและรักบทเพลงเหล่านี้
Claude Debussy 1862-1918
เขาเป็นนักประพันธ์เพลงชาวฝรั่งเศสและนักวิจารณ์ บทเพลงของเขามักเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวแนวอิมเพรสชั่นนิสต์ในภาพเขียน และบทเพลงของเขาได้แสดงคุณลักษณะเข่นนี้ออกมาด้วย ผลงาน Prélude to the Afternoon of a Faunนั้นแยกตัวออกมาจากการพัฒนาตามจารีตนิยม โดยอาศัยลำดับของความซ้ำซ้อนแบบอิสระของหัวข้อพื้นฐาน กวีและจิตรกรยุคอิมเพรสชันนิสต์ที่มารวมตัวกันที่บ้านของกวีที่มีชื่อว่าStéphaneMallar méนั้นมีอิทธิพลต่องานดนตรีออเครสตร้าชิ้นแรกที่สำคัญของเดอบุสซี่ ผลงานPrélude to the Afternoon of a Faun (1892-94) นั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากบทกวีของMallarméที่มีชื่อว่าL'Après-midi d'un faune ผลงานชิ้นนี้ได้จัดตั้งประเภทของเพลงแนวอิมเพรสขั่นนิสต์และได้เริ่มเข้าสู่สมัยที่
เดอบุสซี่มีผลงานมากที่สุดเป็นเวลานานเกือบ 20 ปี
ในช่วงเวลานั้น เขาได้แต่งเพลงออเครสตร้า เช่น Nocturnes(1893-99) La Mer(1903-05) และ Images (1906-09)และเขียนหนังสือเกี่ยวกับPréludes อีกสองเล่มคือบทเพลงปลีกย่อยของThe Martyrdom of St. Sebastian (1911)และ the ballet Jeux (1912) แต่งเพลงหลายเพลงและChamber music รวมทั้งโอเปร่าที่ชื่อว่า Pelléas et Mélisande (1892-1902) นั้นมาจากบทละครของMaurice Maeterlinck ในปี ค.ศ. 1904 เขายังได้ให้คำนิยามว่า"The primary aim of French music is to give pleasure more than anything" หมายความว่าเป้าหมายอันดับแรกของดนตรีฝรั่งเศสคือการมอบความสุขมากกว่าสิ่งอื่นใ ด
ความสนใจของเดอบุสซี่ในเรื่องของความวิจิตรและความรู้สึกได้นำเขาเข้าไปสู่ความซาบ ซึ้งของดนตรีจากวัฒนธรรมอื่น การใช้หลายระดับเสียงที่นอกเหนือไปจากบันไดเสียงเมเจอร์และไมเนอร์ที่ใช้ตามปกติแ สดงให้เห็นถึงอิทธิพลของเพลงเอเชียและรัสเซียอีกด้วย
อิทธิพลที่มีผลมากที่สุดคืองานนิทรรศการดนตรีที่เมืองปารีสในปีค.ศ. 1889 เขาได้พบวงดนตรีออเครสตร้าของประเทศอินโดนิเซีย บันไดเสียงที่แปลก และความพลิ้วไหวของรูปแบบและจังหวะสามารถนำเข้าไปรวมในผลงานของเขาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานเปียโนGamelan เป็นวงดนตรีที่มีเครื่องเคาะจังหวะ วง Gamelan ของอินโดนิเซียนั้นมีเครื่องเคาะจังหวะที่ทำด้วยเหล็กเคริ่องเป่า และกลอง
เดอบุสซี่เริ่มนำบทเพลงของเขาไปรวมกับทัศนศิลป์ต่างๆ ของประเทศตะวันออกไกล ประเทศสเปน ภาพทิวทัศน์ เป็นต้น แล้วทำเป็นบทเพลงสั้นๆ
เราสามารถฟังได้ที่อัลบั้ม Estampes (1903) ซึ่งเปิดด้วยเพลงPagodas และปลุกเร้าความรู้สึกของเอเชียและเจดีย์ที่สง่างาม ป้อมปืน งานชิ้นที่สองในEstampesที่มีชื่อว่า
La soirée dans Grenade ที่ฉายภาพบรรยากาศแบบสเปนแม้กระทั่งChildren's Corner Suite for piano ที่เขาเขียนให้กับลูกสาวอันเป็นที่รักที่เขาเรียกว่าChou Chouมีการนำดนตรีแจ๊สจากตะวันตกมารวมกับดนตรีจากตะวันออก
เร็วๆนี้จะมีการเพิ่มรายการนักดนตรีที่บันทึกผลงานของ โคลด เดอบุสซี่ ทั้งหมดนั่นคือ
ดร. เบ็นเน็ตเลินเนอร์ ผู้มีถิ่นพำนักอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ เขาได้รับเชิญจาก American label, Bridge Records ให้บันทึกผลงานเพลงทั้งหมด ดร.เบ็นเน็ต บอกกับเราว่า"ผมมีความฝันจะทำงานนี้มาหลายปีแล้วตอนนี้ผมมีโอกาสแสดงดนตรีที่มี ความงดงาม"ผู้รักดนตรีในเชียงใหม่จำนวนมากทราบว่า ดร. เบ็นเน็ตเลินเนอร์ได้ดำเนินรอยตามคีตกวีเดอบุสซี่ หลังจากที่เคยรวบรวมงานดนตรีขณะที่สอนในคณะดุริยศิลป์ มหาวิทยาลัยพายัพ เชียงใหม่ และทำงานดนตรีสำเร็จโดยสมบูรณ์
|