เป็นเวลานานหลายปีแล้วที่ดิฉันได้ติดตามผลงานเพลงของบัณฑิตอึ้งรังษี ชาว ไทยเชื้อสายจีน เขาเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมการแข่งขันควบคุมวง ดนตรีนานาชาติอันทรงเกียรติหลายรายการ
เมื่อตอนที่บัณฑิตมีอายุ 14 ปี เขามีความชอบในบทเพลงของวงเดอะ บีทเทิ้ล มาก จนได้สมัครเรียนกีตาร์ที่โรงเรียนดนตรีสยาม ยามาฮ่าในประเทศไทย เขายังได้เห็น การแสดงของวาทยกรชาวอินเดียที่ชื่อ สุบิน เมธา (Zubin Mehta) เขายังทราบอีก ว่าคุณ เมธา ลาออกจากโรงเรียนแพทย์เพื่อเป็นวาทยกรและนักดนตรีและคุณ เมธา ก็เป็นแรง บันดาลใจให้กับบัณฑิตอีกด้วย
ในปีพ.ศ. 2541 บัณฑิตได้รับทุนการฝึกกำกับวงดนตรีของลีโอนาร์ด เบินสไตน์ และได้รับเชิญให้เป็นหนึ่งในสามผู้เข้ารับการฝึกกำกับวงดนตรีที่ศูนย์ดนตรี แทงเจิ้ลวูด โดยมีพี่เลี้ยงคือ ยอร์มา พานูล่า และ เซจิ โอซาว่า ก่อนหน้านั้นในปี เดียวกัน เขาเป็นวาทยกรวัยหนุ่ม หนึ่งในเก้าคนจากทั่วโลกที่จะเข้าร่วมหลักสูตร ระดับผู้เชี่ยวชาญของสถาบัน Sibelius ที่ หอประชุมคาร์เนกี้ นำโดย Esa-Pekka Salonenผู้กำกับดนตรีของ ฟิลฮาร์โมนิค ของ ลอส แองเจลลิส
ในเดือนกันยายน 2545 บัณฑิต อึ้งรังษี นั้นเป็นผู้ชนะร่วมในการแข่งขันวาทยากร นานาชาติMaazel-Vilar ที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่หอประชุมคาร์เนกี้เมืองนิวยอร์ก รางวัลที่ได้รับมอบมาจากคณะกรรมการรวมทั้งLorin Maazel, Kyung-Wha Chung, Glenn Dicterow และ Krzysztof Penderecki ทุกคนจับตามองเขาเป็น อันดับแรกจากผู้เข้าร่วมแข่งขัน 362 คนจาก 40 ประเทศ ในตอนท้ายสุดของการ แข่งขันMaazel กล่าวกับผู้ชมว่า"พวกคุณจะได้เห็นอนาคตของดนตรีคลาสสิค"
ในเดือนพฤษภาคม 2547 อราเบส เรคคอร์ด ได้วางจำหน่ายอัลบั้มMozart flute concertos ที่กำกับบทเพลงโดย บัณฑิต อึ้งรังษี มีนักร้องนำที่มีชื่อเสียงคือ พอลล่า โรบินสัน และวงดนตรี Charleston Symphony Orchestra อัลบั้มที่มีชื่อ Mozart in Loveถูกผลิตโดย Adam Abeshouse ผู้จัดสร้างที่ได้รางวัลแกรมมี่ อวอร์ด เมื่อไม่นานมานี้ตอนต้นปี 2548 บัณฑิตได้รับเชิญให้เป็นทูตทางด้านดนตรี ขององค์กรME ที่นำบทเพลงไปสู่เด็กในตะวันออกกลาง ในช่วงฤดูร้อนปี 2548 รัฐบาลไทยได้มอบรางวัลศิลปินแห่งชาติให้แก่บัณฑิต อึ้งรังษีเพื่อเป็นเกียรติแก่ ความสำเร็จระดับโลกของเขา
ในเดือนพฤศจิกายน 2548 บัณฑิตได้รับเชิญให้เข้าร่วมช่วยพัฒนาSeoul Philharmonic Orchestra ให้กลายเป็นสถาบันทางดนตรีระดับโลก เขาได้รับ ตำแหน่งวาทยกรรับเชิญคนสำคัญของวงออเครสตร้า
เขามีตำแหน่งทางดนตรีหลายอย่าง เช่น Cover Conductor ของ New York Philharmonic, Principal Guest Conductor ของCharlestonSymphony Associate Conductor ของ the Utah Symphony; Music Director และ Conductorของ the Young Musicians Foundation (YMF) งานเปิดตัว ออเครสตร้าใน ลอส แองเจลลิส; Apprentice Conductor ของ the Oregon Symphonyภายใต้การควบคุมของJames DePreist; และ Assistant Conductor ของ the SantaRosa Symphony
บัณฑิตอึ้งรังษียังเป็นวาทยกรนานาชาติที่เป็นที่ต้องการมีพื้นที่ทำงานอยู่5 ทวีป คืออเมริกาเหนือ-ใต้ ยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย เขายังปรากฏอยู่หน้าวงออเครสตร้า ชั้นนำเช่น Orchestra of St. Luke's ในNew York, UtahSymphony, Los Angeles Philharmonic Orchestra และเมื่อไม่นานมานี้กับวง the prestigious La Fenice Theatre ใน Venice.งานในอนาคตก็มีคอนเสิร์ต กับ Pomeriggi Musicali ใน Milan, Orchestra Sinfonica Siciliana ใน Palermo(อิตาลี), Auckland Symphony Orchestra (นิวซีแลนด์), OrchestraInternazionale d'Italia (รวมทั้ง Asian tour), Malaysian Philharmonic,Victoria Symphony (แคนาดา), Cukurova Symphony (ตุรกี), Busan Philharmonic (เกาหลีใต้), Nagoya Philharmonic (ญี่ปุ่น)และ Copenhagen Philharmonic (เดนมาร์ก)
เขายังเคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกหลายท่าน เช่น Maxim Vengerov, Mikhail Pletnev, Julia Migenes, Joseph Allessi, the LaBeque Sisters, Paula Robinson, Christopher Parkening, Christine Brewer และ Elmer Bernstein
หนังสือพิมพ์The Los Angeles Times ได้วิพากษ์วิจารณ์ บัณฑิต อึ้งรังษี ว่า "ควบคุมวงด้วยความสงบและสุขุม แสดงความเชื่อมั่นได้อย่างน่าประทับใจบนเวที การอ่านโน้ตของเขานั้นไม่รีบร้อนและชัดเจน ผสมผสานกันได้อย่างน่าเชื่อถือ และมีรายละเอียด รวมทั้ง pianissimo dynamics" หนังสือพิมพ์ The Charleston Postและ Courier ได้วิพากษ์วิจารณ์ว่า "แสดงสัมผัสที่แน่นอน การแสดงที่ยอด เยี่ยม เป็นแบบการขับเคลื่อนทางจังหวะ การควบคุมแบบไดนามิค และความถูก ต้องแม่นยำ เป็นการแสดงน่าตื่นเต้น ทำให้ผู้ชมลืมหายใจ การอ่านโน้ตจากเริ่มจน จบเต็มไปด้วยสัมผัสที่เชี่ยวชาญซึ่งสร้างความสนใจในรายละเอียดและให้จังหวะ"
|