JY.
กรุณาเล่าถึงการศึกษาและแรงบันดาลใจที่คุณได้เลือกการวาดภาพเปลือย
ความกรุณาเล่าความก้าวหน้า ก้าวหน้าของงาน และแรงบันดาลใจ
SC.
ดิฉันเคยศึกษามัธยมศึกษา ม.1-ม.6 จากโรงเรียนทองแสนขันวิทยา เป็น
โรงเรียนประจำอำเภอ ในอำเภอทองแสนขัน จ.อุตรดิตถ์ ดิฉันเรียนสายสามัญวิทย์
- คณิต ไม่ค่อยได้รู้จักหรือเข้าถึงศิลปะมากนัก แต่มีความสนใจในศิลปะ และชอบ
วาดรูปมาตั้งแต่เด็ก จึงคิดว่าจะเรียนต่อเกี่ยวกับศิลปะ จึงได้มาเรียนต่อ
มหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนาเชียงใหม่ พอได้เริ่มมาเรียนรู้การวาดภาพสีน้ำมันจึง
มีความสนใจในการเขียนคนเป็นพิเศษโดยเฉพาะผู้หญิง ทั้งผิวและสรีระ พอได้เริ่ม
เรียนรู้ในการใช้สีจึงเกิดความสนุกและอยู่กับมันได้นาน ชอบการทับซ้อนของสีผิว
เส้นเลือด ความเป็นมวลของสรีระคน จึงเกิดมาเป็นการเขียนภาพนู้ดในช่วงทำธีสิส
ของการศึกษาป.ตรี ดิฉันเรียนปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยราชมงคลล้านนา
เชียงใหม่ คณะศิลปะกรรมศาสตร์สาขา ทัศนศิลป์ เอกจิตรกรรม และรู้สึกว่ายัง
อยากเรียนรู้เพิ่มเติม จึงเรียนต่อปริญญาโทและเรียนจบ จากมหาวิทยาลัยศิลปากร
คณะจิตรกรรม ประติมากรรมศาสตร์ เอกจิตรกรรม
JY.
เล่าเรื่องราวความกล้าหาญในการสร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพเปลือยใน
สังคมไทย
SC.
เรื่องของความกล้าในการสร้างผลงานภาพเปลือย สิ่งที่ยากที่สุดคือการต่อสู้
กับความรู้ของตนเอง กล่าวคือเวลาที่สร้างผลงานภาพเปลือยที่เป็นเพศหญิง
กระแสคำถามที่มักจะตามมาคือ “ภาพของเราหรือเปล่า” “เขียนร่างเปลือยตนเอง
ไม่อายหรือ ในบางครั้งก็อาจเป็นคำถามที่อยากรู้จริง ๆ ถึงความนึกคิดของดิฉัน
แต่บ่อยครั้งก็เป็นทัศนคติในเชิงลบ ซึ่งหากถามว่า ทำไมต้องใช้หุ่นมนุษย์ที่เป็น
ร่างของดิฉันเอง ในส่วนนี้ดิฉันต้องการท้าทายสายตาของผู้ชม และแสดงความ
กล้าที่แสดงออกทางร่างกาย ไม่ต้องพูดถึงว่าดิฉันเป็นเพศหญิงจึงดึงดูดได้
มากกว่าหรือแสดงอารมณ์ได้ดีกว่า ในแง่นี้ไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันต้องการ ความงามที่
ดิฉันต้องการแบ่งปันเป็นเรื่องของมนุษย์เท่านั้น ไม่ว่าเพศของคุณจะมีสถานะ
อย่างไร เราก็ยังมีความงามในความเป็นมนุษย์ทั้งสิ้น ถึงกระนั้นความท้าทายต่อ
การรับรู้ในสังคมปัจุบันต่อรูปแบบของผลงานค่อนข้างท้าทายขนบธรรมเนียม
วัฒนธรรม และประเพณี ในแง่นี้ดิฉันกล่าวย้อนไปถึงจุดเริ่มต้นของการสร้างสรรค์
ผลงานของดิฉัน โดยพื้นเพเดิมดิฉันเติบโตมาในขนบธรรมเนียมของภาคเหนือ ซึ่ง
ให้ค่าความเข้มแข็งในแง่ของความเป็นชาย สถานะของเพศหญิงจึงมีลักษณะที่
เหนียมอาย
ตามรูปแบบของวรรณกรรมหรือเรื่องเล่าของสาวงามเมืองเหนือ สิ่งนี้อาจจะดูเกิน
จริงในสายตาของคนนอกที่มองเข้ามา แต่ในสิ่งที่ดิฉันพบเจอตลอดการใช้ชีวิต
และการศึกษา ดิฉันค่อนข้างคุ้นชินกับขนบที่พบเจอ การแสดงออกของผลงานใน
ช่วงแรกยังเป็นการถ่ายทอดสิ่งที่ขนบธรรมเนียมแสดงภาพของเพศหญิงอยู่
เช่นเดิม กล่าวคือเพศหญิงยังมีภาพที่ถูกเปรียบเทียบกับวัตถุที่แสดงความมีค่าของ
ตนเอง ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่เพศหญิงในงานของดิฉัน มีความเป็นตัวตนของ
ตนเองมีความกล้าเป็นของตนเอง สิ่งนี้ท้าทายอย่างมากในพื้นที่ของสังคมที่ดิฉัน
ได้เติบโตมา แน่นอนว่าประเด็นนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อนอย่างมากในพื้นที่
ที่ดิฉันได้
กล่าวมาข้างต้น ถึงกระนั้นผลงานของดิฉันยังคงแสดงออกถึงความกล้าของผู้หญิง
ที่ยืนหยัดด้วยตนเอง ไม่ใช่รูปแบบของการยั่วยวนทางเพศหรือเป็นสัญลักษณ์
เปรียบเทียบกับวัตถุแต่อย่างใด
JY.
ภาพวาดของคุณหลายภาพเชื่อมโยงกับความเป็นผู้หญิงโดยสำรวจรูปร่าง
ของผู้หญิง คุณสามารถพูดคุยเกี่ยวกับความสำคัญของการนำเสนอความเป็น
ผู้หญิงในงานศิลปะของคุณได้หรือไม่? และสิ่งนี้มีส่วนช่วยในการเล่าเรื่องทาง
ศิลปะโดยรวมของคุณหรือไม่ การตีความของผู้ดูว่า ศิลปะสามารถตีความได้
หลากหลาย คุณจะนำทางและยอมรับวิธีการต่างๆ ผู้ชมอาจตีความภาพวาดเปลือย
ของคุณอย่างไร และคุณหวังว่าข้อความหรือธีมใดจะดึงความสนใจไปจากงานของ
คุณ SC.
ในธีมโดยรวมของงานนั้นใช้เรื่องการแสดงออกทางร่างกายที่สามารถบ่งบอก
ได้ถึงการต่อสู้ต่อสายตาที่มองความเป็น ผู้หญิง ซึ่งใช้ตัวดิฉันเองต้องการที่
ถ่ายทอดมุมมองอื่น ๆ ต่อร่างกายผู้หญิงที่ไม่ใช่สถานะเพื่อความพึงพอใจในการ
มองเพียงเท่านั้น แต่ยังซ่อนไปด้วยการต่อสู้ต่อสายตาในมุมมองของสังคม ที่
กล่าวได้ว่าผู้หญิงไม่ได้มีสถานะที่สามารถแสดงออกทางร่างกายได้อย่างสมบูรณ์
ซึ่งในแง่นี้มุมมองของสังคมไทยอาจไม่ได้เหมือนแต่ก่อน ผู้หญิงมีบทบาททาง
สังคมมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก้ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า มุมมองต่อผู้หญิงใน
เรื่องของวัตถุทางเพศยังถูกฉายให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง
นี่จึงเป็นวิธีการที่ดิฉันเลือกใช้
เพื่อต่อสู้กับสายตาและมุมมองของสังคม และผลงานของดิฉันเป้นส่วนหนึ่งใน
พื้นที่แห่งการแสดงออกถึงสถานะที่ผู้หญิงสามารถแสดงออกซึ่งความงามในถานะ
ของมนุษย์ ไม่ใช่สิ่งที่กระตุ้นความต้องการทางเพศแต่อย่างใด ดิฉันเพียงต้องการ
ชักชวนผู้ชมให้เห็นถึงความงามต่อการแสดงออกจากร่างกายที่เป็นร่างที่แท้จริง
ของมนุษย์ ที่แสดงออกอย่างตรงไปตรงมาในแง่ของร่างกายอันเป็นสิ่งที่เราทุกคน
มีเอกลักษณ์ต่างกันออกไป
JY.
งานที่คาดหวังใหม่ๆที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต การแสดงเดี่ยวภาพเขียนของ
ตนเอง และงานประติมากรรมของตนเอง ต้องการแสดงผลงานและเป็นที่ยอมรับ
ทั้งในไทยและในต่างประเทศ
SC.
ความก้าวหน้าของผลงาน จากตอนเรียนป.ตรี ดิฉันยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นเรียนรู้
การเขียนสีน้ำมัน ค้นคว้าทดลองศึกษา แนวความคิด งานชุดแรกๆจะมีเรื่องของ
กิเลสตัญหา กับความเชื่อ และศาสนา
ที่ยึดโยงความดีชั่วเกี่ยวกับเรือนร่างผู้หญิง
เป็นสัญญะในการเชิญชวน และยั่วยุอารมณ์ให้เกิดกิเลสตามหลักคำสอนทาง
ศาสนาโดยที่ดิฉันได้ศึกษาอยู่ที่ภาคเหนือ ศิลปะ และวัฒนธรรมค่อนข้างแข็งแรง
และเข้มข้นมาก จึงได้รับอิทธิพลมาไม่น้อย แต่ดิฉันต้องการสร้างตัวงานที่ดิ้นออก
นอกกรอบของวัฒนธรรมที่ผูกมัดความเป็นเพศหญิงที่ต้องเหนียมอายและสงบ
เงียบ ดิฉันจึงอยากสานต่อการเรียนรู้ต่อยอดทั้งทางด้านฝีมือและแนวความคิด จึง
ได้ตัดสินใจมาเรียนต่อป.โท ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะจิตรกรรม ประติมากรรม
และภาพพิมพ์ ดิฉันจึงได้เรียนรู้การค้นคว้าข้อมูลที่ลงลึกมากขึ้น และตัวงานเริ่ม
แข็งแรงในเรื่องการเขียนภาพเปลือยผู้หญิง และการพัฒนาการเขียนผิวที่ดิฉัน
ต้องการสานต่อ จึงได้ปลดแอกตนเองออกจากกรอบแนวคิดเดิมๆที่มีต่อผู้หญิง
โดยการเขียนภาพเปลือยตนเอง ซึ่งแสดงออกถึงสิทธิในการแสดงออกบนร่างกาย
ของตนเอง กล้าที่จะเผชิญหน้าและยืนหยัดเคียงข้างภาพเปลือยของตัวเอง จนถึง
ปัจจุบัน
JY.
ผู้คนจะเข้าถึงคุณได้อย่างไร?
SC.
หากต้องการรับชมผลงานเพิ่มเติมสามารถติดตามการอัพเดตนิทรรศการได้
ทางช่องทาง facebook : Nepjune Sirirath Chumyen
ig : nepjune_siri__4159
จะเป็นการอัพเดตทั้งผลงานและนิทรรศการที่ดิฉันแสดงผลงาน
เพื่อไม่พลาดหากต้องการรับชมผลงานจริง
|