ดิ
ฉันมีโอกาสกลับมาสัมภาษณ์ สุกิจ ศุกระกาญจน์ ศิลปินภาคใต้ ผู้สั่งสอน
ลูกศิษย์ผ่านมาหลายรุ่น
ซึ่งได้ย้ายกลับไปบ้านเดิมที่จังหวัดตรัง
ตรังเป็นจังหวัดที่
ตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศไทยติดกับทะเลอันดามัน เป็น
จังหวัดที่มีชื่อเสียงในด้านความสวยงามของท้องทะเล ป่าและถ้ำที่อุดมสมบูรณ์ มี
สถานที่ ท่องเที่ยว และอาหารปักษ์ใต้ ไทย-จีน ยามเช้าพร้อมชาและกาแฟ
การปรับปรุงท่าเรือปากเมง จังหวัดตรัง พัฒนาเป็นท่าเรือขนาดใหญ่ การเดินทาง
ไปยังเกาะต่าง ๆ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการท่องเที่ยวไทยและเพิ่ม
เสน่ห์ให้กับจังหวัดตรัง
ดิฉันพบว่า สุกิจ ศุกระกาญจน์ ยังทำงานหนักเหมือนเดิม ปรับปรุงบ้าน
ปลูกต้นสักและพันธุ์ไม้อื่นๆ การเป็นพ่อครัวของเขาที่ทำอาหารจากภาคใต้ออกมา
ทำให้ชีวิตมีรสชาติที่น่าชื่นชมแล้ว ยังมีนิทรรศการเดี่ยวและเวิร์กชอป กับศิลปิน
จากจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับนักเรียน ที่มาร่วมวาดภาพสีน้ำ
ในต่างจังหวัด หลังจากที่ดิฉันเคยสัมภาษณ์เขาครั้งแรกใน Scene4 ปี 2560 ตอน
นั้น
สุกิจ
ศุกระกาญจน์
ทำงานในแกลเลอรี่
จังหวัดภูเก็ต
พบว่าสุกิจชอบวาดรูปเรือ
แบบต่างๆ ที่เห็นในชีวิตประจำวันตามชายฝั่งทะเลอันดามัน เมื่อกลับมาบ้านที่
จังหวัดตรัง เขาสานต่องานวาดภาพสีน้ำ แต่ครั้งนี้ เขากล่าวว่า ปีนี้เขาเริ่มกลับไป
วาดภาพสีน้ำมัน โดยส่วนตัวแล้ว ภาพสีน้ำมันของผมจะเก่งกว่าสีน้ำ เขาพูดด้วย
รอยยิ้มที่น่ารัก
ต่อไปนี้เป็นบทสัมภาษณ์
JY.
ขอให้เล่าถึงความก้าวหน้าของศิลปินภาคใต้ที่คุณเคยร่วมงานด้วย ครั้งล่าสุด
เดินทางไปร่วมงานที่จังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 16-17 กุมภาพันธ์ 2566 บรรยากาศ
งานเป็นอย่างไร และเมื่อเร็ว ๆ นี้ดิฉันเห็นโปสเตอร์ของคุณเพื่อแสดงนิทรรศการ
ของคุณจะจัดขึ้นที่ภูเก็ตในเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ภูเก็ตอาร์ตคลับ
SS.
กลุ่มศิลปินสีน้ำภาคใต้รวมตัวกันจากการดำเนินงานของ IWs Thailand โดย
มีอาจารย์บันชา ศรีวงศ์ราชเป็นประธาน Watercolour World Thailand และ
แต่งตั้งอาจารย์ ดิเรก สีแก้ว เป็นประธานกลุ่มสีน้ำภาคใต้ สมาชิกส่วนใหญ่เป็นครู
และประชาชนทั่วไปในภาคใต้ จะมีกิจกรรมให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ระบายสีน้ำ
อย่างต่อเนื่อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ สีน้ำใต้จัดกิจกรรมวาดศิลป์แผ่นดินชุมพร ปลายเดือน
ก.พ. นับเป็นกิจกรรมสีน้ำครั้งแรกของจังหวัดชุมพร มีกิจกรรมเวิร์กช็อปของ
สีน้ำระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่ได้รับเชิญมาสอนสีน้ำให้กับผู้สนใจและกิจกรรม
วาดภาพทั้งในและนอกสถานที่ซึ่งมีผลตอบรับที่ดี
JY.
กรุณาแนะนำตัวเองอีกสักครั้ง
SS.
ผมกลับมาบ้านเดิมที่ตรังเมื่อต้นปี 2561 ผมเปิดบ้านสีน้ำเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้
การวาดภาพด้วยสีน้ำเป็นหลัก จริงๆ แล้วผมจะสอนทุกคนให้วาดแทบทุกสี แต่
บ้านสีน้ำจะเน้นสอนการวาดภาพด้วยสีน้ำเป็นหลัก
ในช่วงที่ผมอยู่ที่ภูเก็ตตั้งแต่ปี
2556 ถึง 2560 มีการแสดงเดี่ยวสีน้ำปีละสองครั้ง แล้วเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
ในปี 2558-2560 ผมจึงกลับมาอยู่บ้านเดิมที่ตรัง ผมเปิดบ้านสีน้ำเพื่อสอนสีน้ำ
ให้กับนักเรียนและประชาชนที่สนใจการวาดภาพด้วยสีน้ำ โดยจะสอนในวันหยุด
และเสาร์อาทิตย์เป็นหลัก ได้รับความสนใจจากผู้ปกครองที่บุตรหลานต้องการ
เรียนวาดรูปเช่นกัน ปัจจุบันผมสอนวาดภาพสีน้ำกับอาจารย์ นิภา ศุกระกาญจน์ ซึ่ง
เป็นภรรยาและเป็นผู้สอนวาดภาพ การสอนสีน้ำส่วนใหญ่จะเน้นไปที่เทคนิค
พื้นฐานและสำคัญ เช่น เทคนิคเปียกบนเปียก เปียกบนแห้ง และเทคนิคแห้งบน
แห้ง ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญในการสอนการวาดภาพสีน้ำเบื้องต้นโดยใช้ภาพ
ทิวทัศน์เป็นภาพหลัก และใช้นักเรียนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ แต่ละคนที่มา
เรียนจะวาดรูปแต่เนื้อหาก็แตกต่างกันไปตามความสามารถ ผมใช้หลักการสังเกต
ผู้เรียนเป็นหลัก สอบถามความต้องการเรียนของผู้สอนเป็นหลัก จัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ร่วมกับผู้สอน สิ่งสำคัญคือผู้เรียนจะมีความสุขกับสิ่งที่ต้องการวาด และผม
จะไม่สอนวาดในแบบของผมแต่จะให้ผู้เรียนค่อยๆค้นหาจุดเด่นและสไตล์ในการ
วาดของตนเองโดยใช้กระบวนการวาดตามขั้นตอนที่ผมสอน ดังนั้นคุณจะเห็น
วิธีการวาดและสไตล์ที่หลากหลายจากวิธีนี้ อาจเหนื่อยสำหรับครู แต่นักเรียนจะมี
ความสุขมากกว่าที่เราไปกำหนดวิธีการวาดให้นักเรียน วิธีนี้จะเกิดขึ้นเมื่อนักเรียน
แต่ละคนมีความชำนาญในพื้นฐานการวาดภาพที่ได้ตั้งใจไว้ก่อน
JY.
ขอเล่าถึงกิจกรรมของบ้านสีน้ำ
SS.
บ้านสีน้ำสนับสนุนให้เยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมวาดภาพต่างๆ ทั้งใน และนอก
สถานที่ เพื่อประเมินความสามารถของตนเอง ในช่วงเวลาปกติจะเน้นการสอน
เฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์ วันละ 2 ครั้ง เช้าและบ่าย
ในอนาคตผมอยากมีห้องนิทรรศการขนาดใหญ่ไว้เก็บผลงานที่วาดไว้ตั้งแต่ปี
2515 เก็บผลงานไว้เยอะ น่าเสียดายที่หลายช่วงอายุของภาพวาดสีน้ำไม่เป็นที่
ต้องการ ปลวกแทะกินไปมากมาย บ้างก็ท่วม บ้างก็หายไปเป็นพันชิ้น ชีวิตนี้ได้แต่
ฝันอยากมีแกลเลอรี่...ต้องใช้ทุนเยอะ การลงทุนที่ไม่มีหน่วยงานหรือการ
สนับสนุนจากองค์กรใดทำให้ความฝันสำเร็จได้ยาก
สำหรับผมตั้งใจว่าจะวาดภาพตลอดชีวิตตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจและแบ่งปัน
ความรู้ให้กับผู้ที่มาเรียน ไม่มีอะไรทะเยอทะยานมากไปกว่าสิ่งที่ได้กล่าวไปแล้ว
อยากให้มีองค์กรที่ส่งเสริมศิลปะสนับสนุนแนวคิดนี้ และผลงานของศิลปินที่
ทำงานศิลปะอย่างจริงจัง น่าเสียดายที่สังคมยังไม่เห็นความสำคัญของศิลปะ
เหมือนประเทศอื่นๆ
ความสำเร็จในการวาดภาพไม่มีวันสิ้นสุดตราบเท่าที่เรายังมีลมหายใจ ทุกครั้งที่
วาดเราจะได้พัฒนาตัวเอง ยิ่งเราทำมาก เราก็จะยิ่งเติบโต ชีวิตเรานั้นสั้นมาก การ
สร้างสมการแห่งความดีและสร้างสรรค์ผลงานที่เป็นเอกลักษณ์เพื่อสังคม
|