" กว่า20 ปีที่ผมได้วาดภาพอย่างจริงจัง กว่า 30 ปีที่ ผมยังคงศึกษาและ
เรียนรู้ศิลปะมาจนถึงทุกวันนี้ ด้วยวิวัฒนาการของเทคโนโลยีและสื่อความรู้ในงาน
ศิลปะที่มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้งานมีความน่าสนใจตลอด เวลาทำให้น่า
ตื่นเต้นสำหรับผู้ที่ต้องการทราบสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ"
JY.
ช่วยเล่าเกี่ยวกับประวัติส่วนตัว การศึกษา และการทำงานของคุณ
IW.
ผมเกิดในชนบทที่รายล้อมไปด้วยภูเขาและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติมา
ตั้งแต่เด็ก ผมสามารถไปศึกษาต่อในเมือง อำเภอ และจังหวัด ตามลำดับ แล้วเข้า
ศึกษาต่อในระดับ ปวช. จังหวัดเชียงราย ระดับ ปวช. และไปต่อที่ โรงเรียนเพาะ
ช่าง ระดับ ปวช. และปริญญาตรี ที่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลคลองหก,
ปทุมธานี หลังจากเรียนจบผมกลับมาเป็นครูที่อาชีวศึกษาเชียงราย ปวช. อยู่ได้
สองปีครึ่งลาออกจากการเป็นครู แล้วไปทำงานที่วังสวนจิตรลดา5-6 ปี แล้วไป
ศึกษาต่อที่คณะศิลปกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร คณะมัณฑนศิลป์ในระดับ
ปริญญาโทขณะทำงานและเรียนหนังสือ
เพราะผมเป็นคนรักอิสระ ผมไม่สามารถอยู่กับสิ่งเดียวกันได้นาน คุณจะรู้สึกอยาก
เรียนรู้และแสวงหาสิ่งใหม่ๆ ผมจึงลาออกและตัดสินใจจริงจังกับการวาดภาพ
หลังจากออกจากงานประจำนี้ผมก็มีการแสดงครั้งแรก ได้รับการสนับสนุนและชื่น
ชมจากผู้มาเยี่ยมชมนิทรรศการ จึงมีความมั่นใจที่จะทำงานศิลปะและวาดภาพ
ต่อไป
JY.
คุณใช้วัสดุอะไรในการทำงานและมีรูปแบบการออกแบบอะไรบ้าง
IW.
ลักษณะงานที่ผมถ่ายทอดคือการวาดภาพธรรมชาติ แสงแดด ท้องฟ้า ภูเขา
ต้นไม้ แอ่งน้ำ ลำธาร และหมอก ผมวาดภาพโดยใช้เทคนิคอะคริลิก ทำไมผมถึง
วาดภาพแบบนี้ เพราะทุกครั้งที่ผมวาดภาพแบบนี้มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนกำลัง
เดินทาง ล่องลอยไปกับจินตนาการ ย้อนนึกถึงบรรยากาศที่ได้มา เป็นบ้านหลัง
เดียวกับที่ผมอาศัยอยู่ตอนเด็กๆ บรรยากาศที่ให้ความรู้สึกมากกว่าคำพูดและคำ
บรรยาย เย็น สดชื่น ครบถ้วน อิ่มเอม เบิกบาน สดใส อบอุ่น หลากหลายความรู้สึก
ที่ได้รับจากธรรมชาติทำให้ผมนึกถึงบ้าน ผมจึงบันทึกธรรมชาติจากจินตนาการ
โดยไม่ต้องใช้แบบจำลอง มันอยู่ในความทรงจำและความรู้สึก แค่หลับตาแล้วคิด
เราอยากให้ธรรมชาติเป็นแบบไหน?ภาพนั้นก็เกิดขึ้นในจิตใจและจินตนาการอย่าง
อิสระ มันสนุกและเพลิดเพลิน
ราวกับว่าเราเป็นผู้สร้างสรรค์ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ทั้ง
ในจินตนาการ ความคิด และความรู้สึกของเรา ผมรู้สึกทึ่งทุกครั้งที่เอาพู่กันลงบน
ผืนผ้าใบ มันเหมือนกับว่ามันดึงผมเข้าสู่บรรยากาศที่ผมอยากให้มันเป็นโดยไม่
ต้องคำนึงถึงต้นแบบจากภาพถ่าย ไม่ต้องพิจารณาว่าถูกหรือผิด เรื่องของแสง เงา
และวัตถุต่างๆ ที่จะเขียนลงไปตามกฎของธรรมชาติ ซึ่งอยู่ในความทรงจำและเป็น
จินตนาการของผมทั้งหมด ผมสร้างภาพในจินตนาการของผมและผมเห็นมัน
ชัดเจนภายใน
แม้ว่าภาพที่ผมวาดจะเป็นธรรมชาติ ท้องฟ้า ภูเขาธรรมดาๆ แต่ก่อนจะวาด ผม
กำหนดความรู้สึกด้วยการนั่งฝันถึงสิ่งนั้น พูดง่ายๆ ก็คือจินตนาการของภาพก่อน
เราอยากให้มันเป็นแบบไหน คุณอยากให้ภาพออกมาอบอุ่นหรือเย็น สว่าง และ
นุ่มนวล หรืออยากสัมผัสความยิ่งใหญ่และกว้างใหญ่
บางอย่างเช่นนี้ในขณะที่วาด
ภาพที่ปรากฏและความรู้สึกภายในก็พูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง คุณได้รับมันหรือไม่?
ยังต้องเพิ่มหรือลดตรงไหน?คุณรู้สึกแบบที่เราอยากให้คุณรู้สึกไหม?คุณรู้สึกถึง
มันหรือยัง? สิ่งนี้ใช้งานได้ภายใน ร่วมกับการวาดภาพภายนอก โดยจะมีการ
ตรวจสอบด้วยภาพตลอดเวลาซึ่งเมื่อวาดงานเสร็จแล้วก็จะแสดงความรู้สึกต่อผู้ชม
โดยไม่ต้องอธิบายข้อความใดๆ
ผลงานในยุคหลังนี้ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับทิศทางของฮวงจุ้ย ปรมาจารย์ได้เห็น
ผลงานและนำไปปรับปรุงฮวงจุ้ยซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกของผู้พบเห็น ยิ่งเห็นก็ยิ่ง
รู้สึกและจะส่งผลต่อผู้ที่อาศัยอยู่ในสถานที่นั้นด้วย
ส่งผลต่ออารมณ์และความรู้สึก
ของผู้อยู่อาศัยในบรรยากาศที่มีภาพนี้อยู่ สิ่งนี้จะส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการ
ทำงานของผู้คน ฮวงจุ้ยเป็นอีกหนึ่งศาสตร์ที่น่าสนใจ และมีหลายสิ่งที่เชื่อมโยง
กับหลักการในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่น่าทึ่ง เช่น หลักการแห่งความสมดุล
หลักการจัดองค์ประกอบ สุนทรียศาสตร์ และจิตวิทยา เป็นต้น
ภาพทิวทัศน์ธรรมชาติของฮวงจุ้ยมีทั้งความสวยงามเชิงลึกและความหมายอาทิ
เช่น
- ท้องฟ้า หมายถึง วิสัยทัศน์ที่กว้างไกล มองเห็นเป้าหมายได้ชัดเจน สว่าง
ชัดเจน และสะดวกสบาย ความคิดสร้างสรรค์
- ภูเขาด้านหลังที่ห่างไกล หมายความว่าสมาชิกในครอบครัว ลูกๆ และญาติๆ
คอยดูแลกันอยู่เบื้องหลัง
ภูเขากลางขนาดใหญ่ เป็นตัวแทนของตัวเราเอง บรรพบุรุษ และผู้อาวุโส เป็น
รากฐานของศักดิ์ศรี ความมั่นคง และความสมบูรณ์แบบ
- ภูเขาด้านข้าง หมายถึง คู่บารมี ความสัมพันธ์ มิตรภาพ สามีภรรยา เพื่อนสนิท
คอยเกื้อกูลกัน
- ภูเขาและต้นไม้เบื้องหน้า หมายถึง ครอบครัวและมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชา
และมิตรสหายที่คอยช่วยเหลือ ปกป้อง และดูแลต่อหน้าเรา
- ทุ่งนากว้าง หมายถึง การแสดงจิตใจที่กว้าง ความเมตตา ความเอื้ออาทร ความ
ราบรื่น ความสงบ ความสงบ ความทั่วถึง
- ดอกไม้ หมายถึง คุณค่า มิตรภาพ ความรัก ความสุข โดดเด่น มีเสน่ห์ น่า
ติดตาม ประทับใจ
- หมอกและเมฆหมายถึงน้ำ น้ำคือความมั่งคั่ง ให้ความรู้สึกชุ่มชื้นและเย็นสบาย
ให้ความนุ่มนวล ความเบา ความอิสระ
ในการทำงานย่อมมีอุปสรรค มันเป็นเรื่องปกติ ทุกครั้งที่เจอปัญหามันทำให้ผม
สนุกและท้าทาย มันทำให้ผมคิดและพิจารณา ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหา ผมมักจะ
คิดถึงวิธีบรรลุเป้าหมายของตัวเองเสมอ ให้ผลงานออกมาดี ทำให้ง่ายและรวดเร็ว
ตลอดระยะเวลาการทำงาน ผมได้สั่งสมเทคนิค วิธีการต่างๆ ในการเพ้นท์สีอะครี
ลิค รวมไปถึงวิธีการแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยข้อจำกัดต่างๆ ของสีอะครีลิค เคยเป็นครู
มาก่อนก็นึกถึงนักเรียนที่สนใจวิชาเดียวกันและคิดเทคนิคและวิธีการที่เราพบและ
แก้ไข น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจครับ จึงอยากถ่ายทอดความรู้ให้ประชาชน
นำไปใช้และพัฒนาต่อไป แต่มีเงื่อนไขส่วนตัวมากมาย
ผมไม่อยากเป็นอาจารย์ประจำ การสอนในสถาบันนั้นถูกจำกัดด้วยเวลาและ
สถานที่
ผมไม่ต้องการที่จะอยู่ภายใต้หลักสูตรและเงื่อนไขการสอนที่คนอื่นคิดและวาง
กรอบให้ผมปฏิบัติตาม
ผมต้องการอิสระในการถ่ายทอด วัน/เวลา/สถานที่ เราสามารถหยุดได้ทุกเมื่อที่
ต้องการหยุด และสามารถทำได้ทุกเมื่อที่คุณต้องการ
ผมต้องการให้แนวคิด ความรู้ และเทคนิคถูกบันทึกไว้เพื่อให้สามารถศึกษาซ้ำแล้ว
ซ้ำอีก ไม่ต้องสอนใหม่ทุกครั้ง
ผมคิดเกี่ยวกับมันอยู่พักหนึ่ง ผมจึงเห็นช่องทางในการสื่อสารความรู้ ผ่านเว็บไซต์
อินเทอร์เน็ต และโซเชียลมีเดีย ผมจึงเริ่มลงคลิปวิดีโอในYouTube, Facebook
และบน Google ผมไม่ได้คาดหวังว่าจะมีผู้ชื่นชมมากมายจนผมโด่งดัง ผมเพียง
ต้องการบันทึกแนวคิด เทคนิค และความรู้ของตัวเองไว้เพื่อคนรุ่นหลังเพื่อใช้เป็น
ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาต่อไปในอนาคต
ยังมีอะไรให้เรียนรู้อีกมาก รวมถึงปัจจุบันยังมีเรื่องสนุก ๆ ให้เรียนรู้และติดตามอีก
มากมาย เช่น ChatGPT, Ai, NFT และโลกเสมือนจริงMetaverse อนาคตของ
โลกศิลปะคงหนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านี้ ในสายตาของผมสิ่งเหล่านี้
น่าสนใจและน่าตื่นเต้นที่สุด
JY.
เล่ารายละเอียดการเป็นครูสอนวาดภาพ ทำ You Tube จัดนิทรรศการ และ
เดินทางไปดูงาน
IW.
พูดคุยเกี่ยวกับอนาคต การสร้างสรรค์งานศิลปะ การวาดภาพ นิทรรศการ
การนำเสนอผลงานให้ผู้คนได้ชม มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปมาก เช่น ใน
อดีตการจัดนิทรรศการเป็นเรื่องยากมาก นอกจากจะมีงานดีและสะสมงานมามาก
พอแล้วยังต้องมีสถานที่ด้วย จะต้องมีผู้จัดงานนิทรรศการ ต้องใช้เงินจำนวนมาก
หรือถ้าศิลปินมีความสามารถก็จัดเองได้ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
หากเป้าหมายคือการนำผลงานของเราให้ผู้อื่นได้เห็นและชื่นชมในยุคนี้เพียงแค่
โพสต์ผ่านโทรศัพท์มือถือออกสู่สื่อ โซเชียลมีเดียต่างๆ ผลงานของผมได้ถูกจัด
แสดงให้ผู้คนได้ชมและชื่นชม ผู้ที่เห็นโอกาสนี้สามารถนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์
ได้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเหมือนเมื่อก่อน รูปแบบและวิธีการมีการเปลี่ยนแปลง แต่
เป้าหมายยังคงเหมือนเดิม รู้ว่าใครทำอะไร ที่ไหน และงานเป็นอย่างไร?หรือ
อาจจะดีกว่าถ้าเรารู้จักใช้มัน ให้เป็นประโยชน์ตามความสามารถของเรา
ผมเป็นคนหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากวิวัฒนาการ การพัฒนาโลกโซเชียลมีเดียใน
ปัจจุบัน นิทรรศการหลายแห่งไม่สะดวกสำหรับผมที่จะเข้าร่วม เพื่อนศิลปินได้จัด
งานต่างๆ
เกี่ยวกับการกินและการดื่ม ผมมีข้อจำกัดในสิ่งที่ผมกิน ผมเป็นมังสวิรัติและไม่กิน
เนื้อสัตว์มาตลอดชีวิต ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
ผมใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและไปศึกษาปฏิบัติธรรมเพื่อให้เกิดความเข้าใจความ
จริงของชีวิต
ดังนั้นการจัดนิทรรศการหรือแสดงผลงานของตัวเองบนโซเชียลมีเดีย สื่อ
เว็บไซต์
และอินเทอร์เน็ต ช่องทางที่ให้ผู้คนได้ชมผลงานของผมอย่างต่อเนื่อง ผมคิดว่า
มันเป็นนิทรรศการของผมผ่านโลกออนไลน์ ใครอยากดูตอนไหนก็เข้ามาดูได้ ไม่
จำกัดเวลา ไม่จำกัดสถานที่ และยังสามารถพูดคุยกันได้ เป็นสิ่งที่เหมาะกับผม
ที่สุดในตอนนี้ แต่ในอนาคต สิ่งต่างๆ สามารถเปลี่ยนแปลงได้เสมอ ถือเป็น
คำตอบที่ดีในสังคมปัจจุบัน
JY.
มุมมองที่กำหนดของคุณคืออะไร
IW.
สุดท้ายนี้ สิ่งที่อยากบอกคือการวาดภาพเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการค้นหา
ความจริงเท่านั้น ศิลปะที่แท้จริงสำหรับผมคือชีวิต ชีวิตที่แท้จริงคือจิตใจและ
ความรู้สึก การสร้างความสมดุลในชีวิตคือหลักการของศิลปะ มากเกินไปหรือน้อย
เกินไปคือการขาดความสมดุล อารมณ์และความรู้สึกที่สมดุล คือ สงบ ไม่โกรธ ไม่
อึดอัด ไม่หงุดหงิด ไม่เบื่อ ไม่เศร้า ไม่กังวล ไม่กลัว ไม่ทุกข์ ไม่อยากได้มาก
เกินไป
ธรรมชาติสร้างความสมดุลด้วยตัวมันเอง ธรรมชาติภายนอก ดิน น้ำ ลม ไฟ
อากาศ ต้นไม้ หญ้า ความมืด และแสงสว่าง อันที่จริงมันเป็นการสอนและสะท้อน
ความสมดุลภายในของเราเอง สิ่งใดหนักหนาก็จะล้มลง สิ่งใดที่เบาก็จะลอยขึ้นไป
เหมือนเม็ดฝนที่ตกลงมา เหมือนไอน้ำและควันที่รอลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า มันคือ
ธรรมชาติและธรรมชาติคือความเข้าใจของชีวิต และสิ่งที่สะท้อนความเข้าใจใน
ชีวิตของเราก็คือการใช้ชีวิตของเรา คือการมองเห็นความจริงแห่งชีวิตทั้งกายและ
ใจ นี่ไม่ใช่ศาสนาและนี่ไม่ใช่ความเชื่อ แต่มันคือความจริงของทุกสิ่งที่ปฏิเสธ
ไม่ได้และนี่คือศิลปะสำหรับผม
|