ดิฉันมีโอกาสได้สัมภาษณ์ ห่มสวรรค์ อู่มานทรัพย์ อีกครั้งในเวลาที่เขากลับมา
ทำนิทรรศการครั้งล่าสุด ASHAPA ที่เป็น Solo Exhibition art ครั้งที่26 ที่กล่าวถึง
'อาชาภา' ที่สะท้อนถึงแรงขับเคลื่อนแห่งศรัทธา พลังแห่งปัญญา และความหมายใน
ชีวิต ผ่านสัญลักษณ์ของม้าและแนวคิดเชิงปรัชญา ศิลปะที่ลึกซึ้งนี้คือประตูสู่ความ
เข้าใจในความเชื่อและความเพียรพยายาม 22 ธันวาคม 2567-2 กุมภาพันธ์ 2568 ที่
ริเวอร์ ซิตี้ กรุงเทพ

ห่มสวรรค์ อู่ม่านทรัพย์ เป็นศิลปินชาวไทยที่มีผลงานโดดเด่นในด้านจิตรกรรม
ฝาผนังและการสร้างสรรค์ศิลปะร่วมสมัย เขาได้ก่อตั้ง "ศิลปะสถาน" ในอำเภอชุมแพ
จังหวัดขอนแก่น บนพื้นที่ประมาณ 22 ไร่ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นสถานที่สำหรับ
ผู้สนใจงานศิลปะและศิลปินในการชมผลงาน จัดเวิร์กช็อป ฝึกงาน และแลกเปลี่ยน
ความรู้ทางศิลปะร่วมกัน เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีโอกาสร่วมสร้างงานศิลปะ
ในส่วนของการแสดงผลงานทางศิลปะ ห่มสวรรค์แสดงนิทรรศการศิลปะเดี่ยว
มาทั้งหมด 26 ครั้ง รวมถึงการแสดงที่ National Art Museum, Thailand Art
Biennale และ Bangkok Art Biennale ด้วย
สัมภาษณ์ ห่มสวรรค์ อู่มานทรัพย์ เกี่ยวกับความคืบหน้าของพิพิธภัณฑ์
ศิลปวัฒนธรรม และผลงานศิลปะใหม่ๆ

JY.
คุณห่มสวรรค์ มองความสำคัญของพิพิธภัณฑ์ศิลปะสถาน ในบริบทของสังคม
ปัจจุบันอย่างไร
HU.
พิพิธภัณฑ์ศิลปะสถาน ไม่ใช่แค่สถานที่จัดแสดงงานศิลปะ แต่ยังเป็นพื้นที่
สำหรับการเรียนรู้และแลกเปลี่ยนความคิดทางวัฒนธรรม ในยุคที่โลกเต็มไปด้วย
ข้อมูลดิจิทัล การมีพื้นที่ที่คนสามารถสัมผัสศิลปะในเชิงลึกและใกล้ชิด
เป็นสิ่งที่ช่วย
เติมเต็มจิตวิญญาณและความคิดสร้างสรรค์ของผู้คน
JY.
แนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงพิพิธภัณฑ์ให้ก้าวทันยุคสมัยมีอะไรบ้าง
HU.
ไม่ได้เน้นเรื่องนี้ครับ
JY.
งานศิลปะใหม่ๆ ที่คุณกำลังพัฒนาในขณะนี้ มีอะไรที่อยากแบ่งปันกับเรา?
HU.
ช่วงนี้ผมกำลังทำโปรเจกต์ที่เน้น "ความสัมพันธ์ระหว่างธรรมชาติและมนุษย์"
โดยใช้วัสดุธรรมชาติและการจัดแสงที่สะท้อนถึงความเชื่อมโยงของสองสิ่งนี้
นอกจากนี้ยังมีการร่วมมือกับศิลปินต่างชาติที่เข้ามาร่วมโปรเจ็ค โดยการพัฒนาองค์
ความรู้ที่มีอยู่ด้วยเทคนิคและวิธีการพื้นถิ่นที่เราถนัด รับใช้วัตถุประสงค์ของการ
สร้างสรรค์ด้วยเทคนิคของเราเอง
JY.
คุณคิดว่าศิลปะมีบทบาทอย่างไรในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนในปัจจุบัน
HU.
ศิลปะเปิดมุมมองใหม่ๆ และก่อให้เกิดการสนทนาเชิงลึกเกี่ยวกับปัญหาที่อาจ
ถูกมองข้ามในชีวิตประจำวัน ศิลปะเป็นเครื่องมือที่กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์และ
ความเข้าใจในความแตกต่างของมนุษย์ ดังนั้น ศิลปะจึงเป็นพลังสำคัญในการนำพา
สังคมให้ก้าวไปข้างหน้า
JY.
คุณมีความฝันหรือวิสัยทัศน์เกี่ยวกับอนาคตของวงการศิลปะอย่างไร
HU.
ผมหวังว่าจะได้เห็นศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของทุกคน เพื่อใช้
ชีวิตและทำงานในอาชีพที่ไม่จำกัดอยู่เพียงในพิพิธภัณฑ์หรือหอศิลป์ ผมต้องการให้
ทุกคนเข้าถึงงานศิลปะได้ง่ายขึ้น และให้โลกศิลปะมีพื้นที่เปิดกว้างสำหรับเสียงใหม่ๆ
รวมถึงความหลากหลายในรูปแบบและวัฒนธรรม
สำหรับการสัมภาษณ์ครั้งแรก เดือนกรกฎาคม 2564 สามารถติดตามได้
ในลิงค์ที่แนบมาด้านล่างนี้:
https://www.scene4.com/archivesqv6/2021/jul-
2021/0721/janineyasovant0721thai.html
|